Tuesday, March 30, 2021

Gluteus minimus

 

Gluteus minimus 

กลูเตียสมินิมัส

กล้ามเนื้อส่วนสะโพก

กลูเตียสมินิมัส

       Gluteus minimus - กลูเตียสมินิมัส - เป็นกล้ามเนื้อสะโพกหรือกล้ามเนื้อกลูเตียลมัดที่เล็กที่สุดจากทั้ง 3 มัด โดยอยู่ใต้กล้ามเนื้อกลูเตียสมีเดียส ( Gluteus medius ) 

       กล้ามเนื้อมัดนี้มีจุดเริ่มอยู่ที่ผิวด้านนอกของกระดูกเชิงกรานตรงบริเวณที่เรียกว่า ilium ระหว่างด้านหลังและด้านหน้าของเส้นแนวกลูเตียล ( gluteal lines ) และมีเส้นประสาทกล้ามเนื้อสะโพกด้านบน ( superior gluteal nerve ) มาเลี้ยง 


หน้าที่

       กล้ามเนื้อกลูเตียสมินิมัสทำงานร่วมกับสะโพกเพื่อรักษาเสถียรภาพของกระดูกเชิงกรานเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลูเตียสแม็กซิมัสเคลื่อนไหวข้อต่อสะโพกได้ เช่นการเหยียดออก การงอเข้า และการหมุน ซึ่งเราไม่สามารถแยกการทำงานของกล้ามเนื้อแต่ละมัดออกจากกันได้เนื่องจากกล้ามเนื้อนั้นมีการเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อสะโพกโดยอาศัยเส้นประสาทและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ

- END - 

Gluteus maximus

 

Gluteus maximus

กลูเตียสแม็กซิมัส

กล้ามเนื้อส่วนสะโพกและก้นกบ 

        Gluteus maximus - กลูเตียสแม็กซิมัส - เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และหน้าที่สุดของส่วนสะโพก มีจุดเกาะที่ Ilium และ Sacrum ของกระดูกเชิงกราน แล้วไปเกาะยังกระดูกต้นขา ทำหน้าที่เหยียดขา กางต้นขา หมุนต้นขา ไปทางด้านข้าง


- END -  

Sunday, March 28, 2021

Clean and Jerk

 

Clean and Jerk

      ท่า Clean and Jerk ประกอบด้วยท่าหลัก 2 ท่าด้วยกัน คือ

       1.ท่า Clean - คือการบกบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้น แล้วเอาบาร์เบลล์นั้นไปอยู่ที่ระดับของหัวไหล่ "แต่" จะไม่มีการค้างจังหวะด้วยการวางบาร์เบลล์ไว้ที่กระดูกไหปลาร้าแต่อย่างใด  คือนักกีฬา จะต้องทำท่าต่อไปโดยทันทีคือ .... ( อันดับ 2 ) 


       2.ท่า Jerk - นักกีฬาจะยกบาร์เบลล์ขึ้นไปเหนือศีรษะทันที โดยยกบาร์เบลล์ขึ้นไปจนสุดแขน และเมื่อสิ้นสุดการทำท่านี้แล้ว นักกีฬาจะต้องยืนนิ่ง โดยแขนทั้งสองข้าง ชูบาร์เบลล์อยู่เหนือศีรษะ แขนเหยียดจนสุด ส่วนเท้าทั้งสองข้าง ก็จะต้องอยู่ในแนวเส้นตรง ( ระนาบในแนวดิ่ง ) กับลำตัว และบาร์เบลล์ 


       ท่า Clean and Jerk จะใช้ในการแข่งขัน Weightlifting โดยทำร่วมกับท่า Snatch  

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  
   
1.ท่า Clean ( อธิบายเพิ่มเติม )

ข้างล่างนี้ )

      นักกีฬาจะย่อตัวลงจับบาร์เบลล์ โดยทำมือเหมือนขอเกี่ยว มือทั้งสองข้างจับบาร์เบลล์ที่ด้านนอกของขา

       ยกบาร์เบลล์มาตรงที่บริเวณหัวเข่า จากนั้นให้ยกบาร์เบลล์ขึ้นอย่างแรงและเร็ว ( ระเบิดจังหวะ ) โดยยกบาร์เบลล์มาวางอยู่ที่บริเวณหน้าคอ และหัวไหล่  /  และย่อขาลงเพื่อเป็นการทำจังหวะให้รองรับการวางบาร์เบลล์ที่หน้าคอ และหัวไหล่ 

       เพื่อจะทำท่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ นักกีฬาจะต้องเหยียดขาทั้งสองข้างขึ้นให้ตรง ( ซึ่งตอนแรก นักกีฬาย่อขาลง เพื่อทำจังหวะให้รองรับการวางเบาร์เบลล์ที่หัวไหล่ ) "พร้อม" กับการดันบาร์ขึ้นจากหัวไหล่เล็กน้อย โดยมีจุดประสงค์ ( ในการดันบาร์ขึ้นจากหัวไหล่เล็กน้อย ) นั้น ก็เพื่อจะทำให้ "ร่างกายท่อนบน" อยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้น  

       ในขณะที่ "ร่างกายท่อนบน" กำลังจะอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นนั้น นักกีฬามักจะขยับมือทั้งสองข้าง ( จากที่จับในตำแหน่งเดิม ) ให้กว้างออกไปเล็กน้อย  และขยับเท่าทั้งสองข้างให้แคบเข้ามาเล็กน้อย เพื่อเป็นการทรงตัว โดยทั้งหมดที่ทำมานี้ ก็คือการทำตัวให้พร้อมที่จะเข้าสู่
จังหวะ Jerk ในลำดับต่อไป ( ข้างล่างนี้ ... ) 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

2.ท่า Jerk ( อธิบายเพิ่มเติม )

ข้างล่างนี้ )

      การทำท่า Jerk จะเริ่มจากตำแหน่งสุดท้ายของท่า Clean  ซึ่งจังหวะสุดท้าย ( ของท่า Clean ) นั้น ก็คือการวางบาร์ไว้ที่หน้าคอและหัวไหล่ของนักกีฬา 

       นักกีฬาจะย่อตัวลงประมาณ 2 - 3 นิ้วด้วยการงอเข่า โดยหลังจะตั้งฉากกับพื้น

       จากนั้นให้ดันบาร์เบลล์ออกจากหัวไหล่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเหยียดหัวเข่าให้ตรง ( ทั้งหมดนี้ ทำในจังหวะเดียวกัน )

       ดันบาร์เบลล์ขึ้นไปเหนือศีรษะ จนกระทั้งเหยียดแขนทั้งสองข้างจนสุด 

       เมื่อทำท่านี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แขนจะเหนียดสุด ส่วนเท้าทั้งสองข้าง ก็จะต้องอยู่ในแนวเส้นตรง ( ระนาบในแนวดิ่ง ) กับลำตัว และบาร์เบลล์    

ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาชาย


ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาหญิง

      ข้อมูล สถิติโลกของนักกีฬาชายและนักกีฬาหญิง 2 อันข้างบนนี้ คือสถิติโลกอย่างเป็นทางการสำหรับการทำ Clean and Jerk ในประเภทชาย 109 กก. ขึ้นไป โดยน้ำหนักสูงสุดที่เคยยกได้ในท่านี้คือ 266 กิโลกรัม ( 586 ปอนด์ ) ในปี พ.ศ.2531 ( ค.ศ.1988 ) โดย Leonid Taranenko แห่งสหภาพโซเวียต

       แต่ต่อมาภายหลัง สถิตินี้ไม่ถือว่าเป็นสถิติโลกอีกต่อไป เพราะสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติได้ปรับโครงสร้างของคลาสน้ำหนักในปี พ.ศ.2536 ( ค.ศ.1993 ) , พ.ศ.2541 ( ค.ศ.1998 ) , พ.ศ.2561 ( ค.ศ.2018 )

- END -

Saturday, March 27, 2021

Snatch ( weightlifting )

 

Snatch ( weightlifting )

      ท่า Snatch เป็นหนึ่งในสองท่าที่ใช้ในการแข่งขันยกน้ำหนักแบบ Weightlifting  ( หรือที่เรียกแบบเต็มว่า Olympic weightlifting ) ( ส่วนที่เหลืออีกท่าหนึ่งคือท่า Clean and Jerk )

       ท่า Snatch คือการยกบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้นแล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ โดยใช้การเคลื่อนไหวต่อเนื่องเพียงครั้งเดียว 

       ท่า Snatch มีอยู่ 4 รูปแบบหลักๆ คือ

       1.Squat Snatch ( หรือ Full Snatch )

       2.Split Snatch

       3.Power Snatch

       4.Muscle Snatch


* * * ท่า Squat Snatch และท่า Split Snatch จะใช้สำหรับการแข่งขัน 


* * * ท่า Power Snatch และท่า Muscle Snatch เป็นท่าที่ใช้ในการฝึก

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

ท่า Squat Snatch

ข้างล่างนี้ )

       ในการทำท่า Squat Snatch นั้น ผู้ยกจะยกบาร์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และดึงตัวเองเข้าไปข้างใต้บาร์เบลล์ โดยพยายามทำให้แขนตรงเพื่อรองรับบาร์ที่อยู่เหนือศีรษะ  จากนั้นก็ยืดตัวเพื่อให้ยืนขึ้นมาอย่างเต็มที่

       โดยในตำแหน่งสุดท้ายที่จะทำการนับคะแนนให้ ก็คือการที่ผู้เข้าแข่งขันยืดตัวขึ้นยืนได้ตรงที่สุด แขนเทั้งสองข้างเหยียดจนสุด 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

ท่า Split Snatch

ข้างล่างนี้ )

       ในการยกท่านี้ ผู้ยกน้ำหนักจะยกบาร์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และดึงตัวเองเข้าไปใต้บาร์ ( คล้ายๆกับการยกในท่า Squat Snatch ) เพียงแต่ในการยกท่านี้ ผู้ยกจะ "แยก" ขาของเขา โดยเอาเท้าข้างหนึ่งไว้ข้างหน้า และเท้าอีกข้างหนึ่งไว้ข้างหลัง 

       ท่านี้ ในตอนแรกที่ยกบาร์ขึ้นจากพื้นนั้น ตัวเองจะได้รับบาร์ที่ต่ำกว่าในการท่าท่า Squat Snatch 

       การยกในท่านี้ ได้รับความนิยม "น้อยลง" ในขณะที่การยกในท่า Squat Snatch ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักยกบางคนที่ยังยกในท่านี้อยู่บ้างเป็นบางโอกาส 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

 ท่า Power Snatch

ข้างล่างนี้ )

      ในการยกท่านี้ ผู้ยกจะยกบาร์เบลให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และรับบาร์ที่อยู่เหนือศีรษะด้วยการงอเข่าและสะโพกเพียงเล็กน้อย

       จากนั้นก็ยืดตัวให้ยืนขึ้น โดยบาร์ยังอยู่เหนือศีรษะอยู่อย่างนั้น 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

ท่า Muscle Snatch

ข้างล่างนี้ )
  
      ท่า Muscle Snatch นี้ เป็นการยกบาร์ ขึ้นไปเหนือศีรษะในจังหวะเดียวเลย โดยล็อคแขนทั้งสองข้างไว้ ( ไม่มีการมาพักบาร์ที่หัวไหล่ก่อน )

       เมื่อยกบาร์ขึ้นมาแล้วก็ยืดสะโพกและเข่าให้ตรงจนสุด

ภาพบน สถิติโลกของนักกีฬาชาย




ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาหญิง 

       ท่า Snatch ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกนักกีฬาในกีฬาประเภทต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักกีฬาในกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเต็มพลังเช่น การขว้างค้อน ขว้างจักร ในกีฬาประเภทลาน และ การวิ่งแบบ Sprint ในกีฬาประเภทลู่ รวมไปถึงกีฬาประเภทที่ต้องกระโดดทั้งหลาย

       การฝึกท่า Snatch เป็นการฝึกให้มีการยืดกล้ามเข่าและสะโพกพร้อมกัน เป็นการเลียนแบบจังหวะการเคลื่อนที่ของร่างกายในกีฬาที่พูดมาก่อนหน้านี้ ( ข้างค้อน , จักร , การวิ่งแบบ Sprint และการกระโดด )

       การทำท่า Snatch จะมีความเร็วเฉลี่ย 1.52–1.67 เมตร / วินาที 

- END -   

Tuesday, March 23, 2021

Mr.Olympia - หน้า 2 -

 

- หน้า 2 ( หน้าสุดท้าย ) -

 1  <  2


ดอเรียน  เยตส์  /  Dorian Yates

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2535 - 2540  /  ค.ศ.1992 - 1997


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : ดอเรียน เยตส์  ( Dorian Yates )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 19 เมษายน พ.ศ.2505  /  April 19, 1962

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 30 ปี , 31 ปี , 32 ปี , 33 ปี , 34 ปี และ 35 ปี

ความสูง : 179 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 10-1/2 นิ้ว 

สัดส่วน : ต้นแขน 21 นิ้ว ( 54 ซม. ) / หน้าอก 58 นิ้ว ( 148 ซม. ) / เอว 34 นิ้ว ( 86 ซม. ) / ต้นขา 31 นิ้ว ( 73 ซม. ) / น่อง 22 นิ้ว ( 56 ซม. )

น้ำหนัก : ช่วงฤดูการแข่งขัน 125 กก. ( 275 ปอนด์ ) / ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 141 กก. ( 310 ปอนด์ )

      ในปีที่แล้ว คือปี พ.ศ.2534  /  ค.ศ.1991 ดอเรียน  เยตส์ ขึ้นแข่งขันในรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย และเกือบชนะ คือได้ตำแหน่งอันดับ 2  /  แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

       สิ่งที่คนส่วนมากคิดไว้ก็คือว่า ในระยะเวลา 1 ปีให้หลัง ดอเรียน  เยตส์ จะต้องกลับมาอีกครั้งพร้อมกับร่างกายที่สมบูรณ์แบบ และจะต้องคว้าชัยชนะไปอย่างแน่นอน 

       และ ดอเรียน  เยตส์ ก็ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ( หมายถึง สิ่งที่คนส่วนมากคิดไว้ ) นั่นคือการที่เขาขึ้นเวทีโอลิมเปีย ในปี พ.ศ.2535  /  ค.ศ.1992 พร้อมกับกล้ามเนื้ออันทรงพลังทั่วทั้งร่าง และกล้ามหลังที่น่าตื่นตา

       กล้ามเนื้อของ ดอเรียน  เยตส์ ดูราวกับว่ามัน "ไร้ผิวหนัง" เป็นกล้ามเนื้อชิ้นมหึมา ที่ชัดมาก จนสามารถเอามาศึกษาวิชา กายวิภาค ได้เลย

 * * * ดอเรียน  เยตส์ ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2535  /  ค.ศ.1992 โดยเป็นที่ยอมรับของทุกคนว่า เขามีสภาพที่ดีเยี่ยมที่สุด  /  ยุคใหม่ของมิสเตอร์โอลิมเปีย ได้เริ่มขึ้นแล้ว - ยุคของ ดอเรียน  เยตส์ 


 
 * * * พ.ศ.2536  /  ค.ศ.1993 - ไม่มีอะไรจะหยุดยั้ง ดอเรียน  เยตส์ ได้  / ในปีนี้ เขาแสดงให้โลกเห็นถึงมวลกล้ามเนื้อขนาด 116.5 กิโลกรัม แบบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน  และได้ครองบัลลังค์โอลิมเปียอีกครั้ง



 * * * พ.ศ.2537  /  ค.ศ.1994 - ปีนี้ เป็นปีที่ยากลำบากเป็นอย่างมากสำหรับ ดอเรียน  เยตส์ เพราะเขาต้องบาดเจ็บสาหัสจากการที่กล้ามไบเซบฉีกขาด ,รวมไปถึงการบาดเจ็บที่หัวไหล่ และกล้ามต้นขาด้านหน้า ( Quadriceps ) และเขาก็ขึ้นเวทีในสภาพบาดเจ็บอย่างนั้น แต่ก็สามารถเอาชนะผู้อื่นได้ และเป็นแชมป์มิสเตอร์โอลิมเปียได้อีกครั้ง  


 
 * * * พ.ศ.2538  /  ค.ศ.1995 - การแข่งขันปีนี้ถูกจัดขึ้นในแอตแลนตา  /  เยตส์ กลับมาเพื่อพิสูจน์ว่าอาการบาดเจ็บของปีที่แล้วหายเป็นปกติแล้ว และเขาก็พร้อมสำหรับการต่อสู้


       คู่แข่งคนสำคัญในปีนี้คือ นัสเซอร์ เอล ซันบาตี ( Nasser El Sonbaty ) และอีกคนหนึ่งคือ เควิน เลฟโรน ( Kevin Levrone )  /  มีคนจับสังเกตุได้ว่าเยทส์ "กลัว" นัสเซอร์ แต่เยทส์ก็พยายามเก็บอาการไว้  /  ก็น่ากลัวอยู่หรอก เพราะปีนี้ นัสเซอร์ มาด้วยน้ำหนักตัว 122.4 กก.เลยทีเดียว  /  แต่ท้ายที่สุดแล้ว เยทส์ ก็ยังรักษาความเป็นแชมป์ไว้ได้อีกปีหนึ่ง


 
 * * * พ.ศ.2539  /  ค.ศ.1996 - เนื่องจากการแข่งขันจัดที่แอลแลนต้ามาหลายครั้งแล้ว ในปีนี้ จึงเปลี่ยนสถานที่ประกวดไปที่เมืองชิคาโก้  /  เยทส์ปกป้องตำแหน่งไว้ได้ โดยเอาชนะ ชอว์น เรย์ ( Shawn Ray ) และ เควิน เลฟโรน ( Kevin Levrone )  


  * * * พ.ศ.2540  /  ค.ศ.1997 - การแข่งขันปีนี้ จัดขึ้นที่ Long Beach และมีการเฉลิมฉลองการประกวดที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 33 ด้วย  /  เงินรางวัลทั้งหมดคือ 285,000 เหรียญ โดยจะเป็นของแชมป์คนเดียวจำนวน 110,000 เหรียญ ( เงินที่เหลือก็แบ่งไปตามลำดับตำแหน่ง ) 


       ความน่าสนใจของการแข่งขันปีนี้คือการลุ้นว่า เยทส์ จะสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ครั้งที่ 7 ได้หรือไม่? และ นัสเซอร์ ที่มาพร้อมกับมวลกล้ามเนื้ออันน่าเหลือเชื่อ จะเอาชนะ เยตส์ ได้หรือไม่?

       มีหลายคนบอกว่านัสเซอร์นั้นดีกว่า เยตส์ แต่อย่างไรก็ตาม เยตส์ ก็ยังได้เป็นเจ้าของรูปปั้นแซนดาว คือเป็นมิสเตอร์โอลิมเปียเป็นครั้งที่เจ็ดได้ 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

รอนนี่  โคลแมน  /  Ronnie  Coleman

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2541 - 2548  /  ค.ศ.1998 - 2005


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : รอนนี่  โคลแมน  ( Ronnie  Coleman )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 13 พฤษภาคม พ.ศ.2507  /  May 13, 1964

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 34 ปี , 35 ปี , 36 ปี , 37 ปี , 38 ปี , 39 ปี , 40 ปี และ 41 ปี

ความสูง : 180 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 11 นิ้ว  

สัดส่วน : หน้าอก 60 นิ้ว ( 150 ซม. )  /  ต้นแขน 24 นิ้ว ( 61 ซม. )

น้ำหนัก : ช่วงฤดูการแข่งขัน 130 - 136 กก. ( 287 - 300 ปอนด์ )  /  ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 143 - 145 กก. ( 315 - 320 ปอนด์ ) 


      ก่อนการแข่งขันในรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2541  /  ค.ศ.1998 ปรากฏว่าดอเรียน  เยทส์ ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อไทรเซบ จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขันในปีนั้น  

       เมื่อตำแหน่งแชมป์ว่างลง ก็มีรายชื่อตัวเต็งปรากฏขึ้นหลายคน อย่างเช่น นักเพาะกายที่ดีที่สุดของยุค 90 คือ เควิน เลอฟโรน ( Kevin Levrone )  /  เฟล็กซ์  วีลเลอร์ ( Flex Wheeler ) ผู้ไม่เหมือนใคร  /  นัสเซอร์ เอล ซันบาตี ( Nasser El Sonbaty ) ที่ยอดเยี่ยมที่สุด  /  และ ชอว์น เรย์ ( Shawn Ray ) ผู้ยิ่งใหญ่  /  ซึ่งทุกคนที่กล่าวชื่อมานี้ ต่างก็เข้าใกล้ตำแหน่งแชมเปี้ยนในปีที่ผ่านมาแล้วทั้งสิ้น แต่ทุกคนที่กล่าวมา ก็ถูก ดอเรียน  เยทส์ สกัดเอาไว้ทั้งหมด  

       ในการสมัครของผู้เข้าแข่งขันในปีนี้ มีผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ ( หมายถึงว่าได้ตำแหน่งไม่ค่อยดี ) เขาคนนั้น คือนายตำรวจชื่อ รอนนี่  โคลแมน ซึ่ง "ไม่ได้อยู่ในรายชื่อตัวเต็ง" ตามที่กล่าวแต่อย่างใด

       จริงๆแล้ว รอนนี่ เข้าร่วมประกวดรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย มาตั้งแต่ 6 ปีก่อนหน้านี้แล้ว ( คือ เริ่มเข้าประกวดในรายการมิสเตอร์โอลิมเปียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535  /  ค.ศ.1992 เป็นต้นมา ) เขาพัฒนาร่างกายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2539  /  ค.ศ.1996 เขาได้เปลี่ยนแปลงการฝึกและทำให้ร่างกายเขาพัฒนาขึ้นมาก จนได้อันดับที่ 6 

       ในปี พ.ศ.2540  /  ค.ศ.1997  ได้เกิดการพัฒนาร่างกายของรอนนี่ อย่างน่าอัศจรรย์ เขาพูดให้ฟังว่า เขาเพิ่งค้นพบวิธีการฝึกที่เหมาะกับตัวเขา อย่างที่ตัวเองก็ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน นั่นคือวิธีการฝึกเพาะกายผสมกับการฝึกแบบ Power lifting ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเขาเริ่มเติบโตจนน่าตกใจ  /  ราวกับว่า รอนนี่ ได้ค้นพบกุญแจสำคัญสำหรับไขความลับในสรีวิทยาของเขาเลยก็ว่าได้   

       ผลของการค้นพบวิธีฝึกอันใหม่นี้ ทำให้ในปีนั้น ( พ.ศ.2540  /  ค.ศ.1997 ) ตอนแข่งกรังปรีซ์ที่ประเทศรัสเซีย เขาก็เอาชนะ เควิน เลฟโรน ( Kevin Levrone ) ไปได้  /  ณ.จุดนี้เอง ที่รอนนี่ เริ่มแสดงให้เห็นถึงความน่าทึ่งของการเปลี่ยนแปลงของเขา   

* * * พ.ศ.2541  /  ค.ศ.1998 - เมื่อถึงเวลาของการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปีย  ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และะผู้เข้าชมการแข่งขันทุกคน  ต่างก็ตกใจกับการปรับปรุงร่างกายอันน่าทึ่งของรอนนี่  โคลแมน  และแน่นอน เขาได้เป็นแชมป์มิสเตอร์โอลิมเปียคนใหม่ในปีนั้นนั่นเอง


 * * * พ.ศ.2542  /  ค.ศ.1999 - Mandalay Bay Resort and Casino Las Vegas รัฐเนวาดา ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุด ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมิสเตอร์โอลิมเปียในปีนี้  /  ผู้เข้าแข่งขันที่สำคัญคือ รอนนี่ โคลแมน ( Ronnie Coleman ) , คริส คอร์เมียร์ ( Chris Cormier ) , เฟล็กซ์  วีลเลอร์ ( Flex Wheeler ) ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

       เมื่อกรรมการประกาศชื่อผู้เป็นแขมป์มิสเตอร์โอลิมเปีย ว่าเป็นรอนนี่  โคลแมน นั่นทำให้เฟล็ก  วีลเลอร์ หันหลังเดินออกจากเวที พร้อมทั้งชูนิ้วเพื่อแสดงว่าตัวเขาเองควรจะได้ที่ 1 ไม่ใช่รอนนี่


  * * * พ.ศ.2543  /  ค.ศ.2000 - ปี 2000 เป็นจุดเริ่มต้นของสหัสวรรษใหม่ และเป็นจดเริ่มต้นของการเพาะกายยุคใหม่ ซึ่งมี รอนนี่  โคลแมน ครอบครองความเป็นราชาอยู่  /  เขาเป็นราชาผู้กระหายชัยชนะ อีกทั้งยังยึดครองบัลลังก์ไว้อย่างเหนียวแน่น และการแข่งขันในปีนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

       รอนนี่  โคลแมน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะกับการเป็นที่หนึ่ง และได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย เป็นครั้งที่สาม  อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในปีนี้จัดขึ้นในสถานที่เดียวกันกับปีที่แล้ว


 * * * พ.ศ.2544  /  ค.ศ.2001 - สถานที่แห่งการต่อสู้ของบรรดายักษ์ใหญ่แห่งโอลิมเปียไม่ได้ย้ายไปที่ไหน ยังคงเป็น Mandalay Bay Resort and Casino Las Vegas  ที่เป้นเจ้าภาพเชื้อเชิญแขกจากทั่วโลกให้มาชมการประกวดเพาะกาย

       ในปีนี้ มี เจย์  คัทเลอร์ ( Jay Cutler ) ที่โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ มาสั่นคลอนัลลังก์ของรอนนี่ อย่างรุนแรง  จริงอยู่ ที่แม้รอนนี่จะมีชัยชนะอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ในปีนี้ เจย์  คัทเลอร์ มีร่างกายที่สวยงามกว่ารอนนี่มาก


* * * พ.ศ.2545  /  ค.ศ.2002 - วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2545  /  ค.ศ.2002 เวทีประกวดที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา  มีสัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่หลายตนเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศ  /  การประชันกันในครั้งร้อนแรงราวกับเปลวไฟ  /  ในรอบนี้ มี รอนนี่  โคลแมน , เจย์  คัทเลอร์ และ กุนเทอร์ ชเลอแคมป์ ( Gunter  Schlierkamp ) เข้าประชันกัน

       เห็นได้ชัดว่าผู้ชมทั้งหลายดูจะเห็นอก เห็นใจ และเชียร์ให้ กุนเทอร์ ชเลอแคมป์ ( Gunter  Schlierkamp ) เป็นผู้ชนะ โดยดูได้จากเสียงเชียร์ที่ดังระงมไปทั้งห้องโถง ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวบนเวที   /  แต่อย่างไรก็ตาม กรรมการมีสายตาที่ดีกว่า และลงมติมอบชัยชนะให้แก่รอนนี่ไปอีกครั้ง 


 * * * พ.ศ.2546  /  ค.ศ.2003 - มิสเตอร์โอลิมเปีย 2003 จัดชึ้นเป็นครั้งที่สองในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา  ในปีนี้ เจย์  คัทเลอร์ , คริส  คอเมียร์ และ กุนเทอร์ ชเลอแคมป์ ได้มาท้าทายตำแหน่งราชาแห่งการเพาะกาย  แต่ในปีนี้ เมื่อรอนนี่เหยียบลงบนเวที ผู้ชมต่างก็ยืนปรบมือกันเซ็งแซ่ - ไม่มีใครเคยเห็นมวลกล้ามเนื้อขนาดนี้มาก่อน  ครั้งนี้เป็นชัยชนะอีกครั้งของโคลแมน และปีนี้ เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้จริงๆ  /  ปีนี้ รอนนี่ อายุ 39 ปีแล้ว!


 * * * พ.ศ.2547  /  ค.ศ.2004 - ยังคงจัดขึ้นที่เดิมสำหรับการแข่งขันในปีนี้ ( คือจัดการประกวดที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ) ครั้งนี้ อาร์โนลด์  ชวาลเซเนกเกอร์ ในฐานะผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับเกียรติขึ้นมอบรางวัลรูปปั้นแซนดาวให้แก่ผู้ชนะ

       และยังเป็นรอนนี่ โคลแมน ที่รับชัยชนะในปีนี้ ส่วนอันดับสองก็คือ เจย์  คัทเลอร์ ส่วนอันดับสามคือ กุสตาโว บาเดล ( Gustavo Badell )

       ในปีนี้ เงินรางวัลขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ คือสูงถึง 540,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ


 * * * พ.ศ.2548  /  ค.ศ.2005 - มิสเตอร์โอลิมเปีย 2005 จัดขึ้นที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ผู้แข่งขันที่สำคัญที่สุดของรายการนี้คือคู่ของ รอนนี่  โคลแมน และ เจย์  คัทเลอร์  /  ดูกันจริงๆแล้ว เจย์  คัทเลอร์ มีร่างกายที่ใหญ่ขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก และมีลุ้นว่าจะโค่นแชมป์เก่าได้ 

       แต่สุดท้าย ก็ยังเป็นรอนนี่  โคลแมน ที่ได้รับชัยชนะ ได้ครองตำแหน่งมิสเตอร์โอลิมเปียสมัยที่ 8

       อาร์โนลด์  ชวาลเซเนกเกอร์ และเบน  ไวเดอร์ ( น้องชายของโจ  ไวเดอร์ - เจ้าของรายการ ) ขึ้นแสดงความยินดี กับรอนนี่ สำหรับการได้ครองตำแหน่งราชาของนักเพาะกายโลกถึงแปดครั้งติดต่อกัน และในปีนี้ยังมีการเฉลิมฉลองสำหรับการครบรอบสี่สิปปีของการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปียนับตั้งแต่การก่อตั้งมา

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

เจย์  คัทเลอร์  /  Jay Cutler 

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2549 - 2550 และ พ.ศ.2552 - 2553  

 /  ค.ศ.2006 - 2007 และ ค.ศ.2009 - 2010


ข้างล่างนี้ )   

ชื่อ : เจย์  คัทเลอร์  ( Jay  Cutler )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 3 สิงหาคม พ.ศ.2516  /  August 3 ,1973

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 33 ปี , 34 ปี , 36 ปี และ 37 ปี

ความสูง : 178 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 10 นิ้ว  

สัดส่วน : ต้นแขน 22 นิ้ว ( 56 ซม. )  /  หน้าอก 58 นิ้ว ( 150 ซม. )  /  เอว 34 นิ้ว ( 86 ซม. )  /  ต้นขา 30 นิ้ว ( 76 ซม. )  /  น่อง 20 นิ้ว ( 51 ซม. )

น้ำหนัก : ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 132 กก. ( 290 ปอนด์ )  /  ช่วงฤดูการแข่งขัน 118 กก. ( 280 ปอนด์ ) 


* * * ในปี พ.ศ.2549  /  ค.ศ.2006  โคลแมน พยายามฝึกมาทั้งปี เพราะมีความตั้งใจที่จะสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย สมัยที่ 9  /  และทุกคนก็รอคอยให้มันเกิดขึ้น

       แต่แล้ว เจย์  คัทเลอร์ ก็ดับฝันของโคลแมนอย่างสิ้นเชิง ด้วยการทำให้มันไม่เกิดขึ้น เพราะในปีนี้ รอนนี่  โคลแมน ต้องสูญเสียตำแหน่งมิสเตอร์โอลิมเปียให้กับเขา

       ชัยชนะของเจย์  คัทเลอร์ เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว เขาต่อสู้ด้วยความทะเบอทะยานติดต่อกันมานานหลายปี เพื่อจะให้ได้รับรางวัลขนะเลิศตรงนี้


 * * * พ.ศ.2550  /  ค.ศ.2007 - จากที่พูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เจย์ ต้องต่อสู้ติดต่อกันมายาวนานหลายปี กว่าที่จะได้เป็นแชมป์  ซึ่งการต่อสู้อันยาวนานที่พูดถึงนั้น ส่งผลที่ไม่่ค่อยดีนักกับเขา  ความทรุดโทรมบางอย่างปรากฏชัดบนเรือนร่างของเขาบนเวทีประกวด  และนั่นทำให้เขาชนะด้วยความยากลำบาก  เขา "เกือบ" ที่จะสูญเสียตำแหน่งแชมป์ให้แก่ วิกเตอร์ มาร์ติเนซ ( Victor Martinez ) 

       ผลการประกวดในปีนี้คือ เจย์ ได้เป็นแชมป์ ส่วนอันดับสองเป็นของ วิคเตอร์ มาติเนซ  และอันดับสามเป็นของ เด็กซ์เตอร์ แจ็กสัน 


* * * พ.ศ.2551  /  ค.ศ.2008 - เจย์ สูญเสียตำแหน่งให้กับ เด็กซ์เตอร์  แจ็คสัน


 * * * พ.ศ.2552  /  ค.ศ.2009 - มีข่าวลือหนาหูว่า เจย์จะไม่เข้าร่วมประกวดในปีนี้ แต่ข่าวนั้นไม่เป็นความจริง  เราได้เห็นเจย์ คัทเลอร์ บนเวทีประกวดพร้อมกับการแสดงมัดกล้ามเนื้อที่ยอดเยี่ยม  /  วิคเตอร์  มาร์ติเนซ พยายามเบียดเขาทุกวิถึทาง แต่ก็ไม่มีประโยชน์

       คัทเลอร์ ได้รับตำแหน่งแชมป์ และยังได้รับเกียรติให้ได้รับการเสนอชื่อสำหรับ กล้าม Quadriceps  ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรายการ


 * * * พ.ศ.2553  /  ค.ศ.2010 - การประกวดจัดขึ้นที่ ลาสเวกัส เนวาดา  ในปีนี้มี นอกจากเจย์แล้ว ยังมีนักเพาะกายที่น่าจับตามองอยู่หลายคนบนเวที อันได้แก่ ไค  กรีน ( Kai Greene )  , เดนนิส วูล์ฟ ( Dennes Wolf ) , วิกเตอร์ มาร์ติเนซ ( Victor Martinez ) , บรานช์ วาร์เรน  ( Branch Warren ) , ฟิล ฮีธ ( Phil Heath ) , โทนีย์ ฟรีแมน ( Toney Freeman )

       แต่ในที่สุด เจย์  คัทเลอร์ ประสบความสำเร็จอีกครั้งและได้เป็นแชมป์มิสเตอร์โอลิมเปียในปีนี้  


       หลังจากปีนี้ ( คือหลังจากปี พ.ศ.2553  /  ค.ศ.2010 เป็นต้นไป ) เจย์ขึ้นประกวดอีก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้เขาจะเพิ่มความหนาใหักับกล้ามหลังส่วนบนได้จนน่าประทับใจ แต่ "เอว" ของคัทเลอร์ ซึ่งกว้างมากๆอยู่แล้ว ก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆจนเป็นที่ชัดเจน

       ช่วงเวลาแห่งชัยชนะของเจย์สิ้นสุดลง  ความเหนื่อยล้าจากการฝึกมาหลายปี เริ่มส่งผลกระทบต่อคุณภาพกล้ามเนื้อ  /  มันเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งของกล้ามเนื้อ และสรีรวิทยาของนักกีฬาที่ขึ้นประกวดทุกคน  /  เหมือนกับตอนที่ รอนนี่  โคลแมน ขึ้นประกวดในปี พ.ศ.2549  /  ค.ศ.2006 ( ปีที่เสียตำแหน่งให้กับเจย์  คัทเลอร์ ในครั้งแรก ) รูปร่างของรอนนี่ ในปีนั้น ( คือ ปี พ.ศ.2549  /  ค.ศ.2006 ) ดูแย่อย่างเห็นได้ชัด 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

เด็กซ์เตอร์  แจ็กสัน  /  Dexter Jackson

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2551  /  ค.ศ.2008


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : เด็กซ์เตอร์  แจ็กสัน  ( Dexter Jackson )

วันเดือนปีที่เกิด
 :  25 พฤศจิกายน พ.ศ.2512  /  November 25 ,1969 

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 39 ปี

ความสูง : 168 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 6 นิ้ว 

สัดส่วน : ต้นแขน 20 นิ้ว ( 50 ซม. )  /  หน้าอก 52 นิ้ว ( 132 ซม. ) 

น้ำหนัก : ช่วงฤดูการแข่งขัน 98 กก. ( 215 ปอนด์ )  /  ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 107 กก. ( 235 ปอนด์ ) 

      ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2551  /  ค.ศ.2008 มีการแข่งขันรายการมิสเตอร์โอลิมเปียจัดขึ้นที่ Orlean Arena ในลาสเวกัส  ซึ่งถือได้ว่าเป็นรายการประกวดที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา  ผู้ชนะคือ เด็กซ์เตอร์  แจ็กสัน  /  ตำแหน่งที่สองเป็นของ เจย์  คัทเลอร์  /  ตำแหน่งที่สามเป็นของ ฟิล  ฮีธ

       ไม่ใช่ขนาดที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดบนเวทีที่จะเป็นผู้ชนะ แต่เป็นเรื่องของ ความสวยงามของกล้ามเนื้อ , ความนูน , และคุณภาพที่สูงที่สุดของกล้ามเนื้อต่างหาก ที่เป็นตัวตัดสิน

       หลายคนเริ่มพูดถึงการกลับไปสู่ยุคทองของการเพาะกายในช่วงปี ค.ศ.1970 ( Webmaster - หมายถึงว่า คนทั่วไปคิดว่า แฟชั่นการประกวด มันจะกลับไปในช่วงปี พ.ศ.2513 ที่เน้นเรื่องความสวยงามของมัดกล้าม , ไม่เน้นที่ขนาดใหญ่โตมโหฬาร )

       ถึงเม้ว่าเด็กเตอร์ จะชนะเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเพาะกาย ในฐานะหนึ่งในผู้ชนะการประกวดของรายการประกวดที่ยากที่สุด หินที่สุด เรียบร้อยแล้ว ( Webmaster - หมายถึงรายการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปียนั่นเอง )


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

   ฟิล  ฮีธ  /  Phil Heath

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2554 - 2560

 /  ค.ศ.2011 - 2017


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : ฟิล  ฮีธ ( Phil Heath )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 18 ธันวาคม พ.ศ.2522  /  December 18, 1979

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 32 ปี , 33 ปี , 34 ปี , 35 ปี , 36 ปี , 37 ปี และ 38 ปี

ความสูง : 175 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 9 นิ้ว 

สัดส่วน : ต้นแขน 22 นิ้ว ( 56 ซม. )  /  ต้นขา 31.89 นิ้ว ( 81 ซม. )  /  น่อง 20 นิ้ว ( 51 ซม. )  /  คอ 22.44 นิ้ว ( 57 ซม. )  /  เอว 29.13 นิ้ว ( 74 ซม. ) 
 

น้ำหนัก : ช่วงฤดูการแข่งขัน 109 กก. ( 240 ปอนด์ )  /  ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 125 กก. ( 275 ปอนด์ )  


      ฟิล  ฮีธ เข้าประกวดในรายการมิสเตอร์โอลิเปีย ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2551  /  ค.ศ.2008  ซึ่งในการประกวดครั้งแรกก็ได้ตำแหน่งที่สามแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับนักเพาะกายระดับมืออาชีพ  เพราะในตำนานนักเพาะกายที่ประสบความสาเร็จหลายท่าน ก็เริ่มต้นด้วยตัวชี้วัดแบบนี้

       ในปี พ.ศ.2552  /  ค.ศ.2009 ฟิล ได้เพียงอันดับที่ 5 

       ในปี พ.ศ.2553  /  ค.ศ.2010 ฟิล พัฒนารูปร่างไปอย่างผิดหูผิดตามาก มีทั้งความคมชัดและรูปทรงที่ยอดเยี่ยม  เพียงแต่ว่าในปีนั้น เจย์  คัทเลอร์ ยังมีคุณภาพในกล้ามเนื้ออยู่บ้าง ก็เลยทำให้ฟิล ซึ่งมีร่างกายที่ทัดเทียมกับเจย์ ได้ไปเพียงตำแหน่งที่สอง  

       มีคำสนทนาที่ถูกบันทึกไว้ระหว่างเจย์ กับฟิล ดังนี้ ( ฟิล โดยส่วนตัวแล้ว มีความนับถือในตัวเจย์มาก  ตั้งแต่ฟิล เข้าวงการเพาะกายมาใหม่ๆ ก็มีเจย์ เป็นไอดอลมาโดยตลอด )

จย์ : ปีหน้าคุณต้องกลายเป็นมิสเตอร์โอลิมเปียแล้ว คุณพร้อมหรือยัง?


ฟิล ฮีธ : ครับ ผมพร้อมแล้ว


เจย์ : ฉันดีใจที่การแข่งขันไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างมิตรภาพของเรา  เรายังคงเป็นเพื่อนกัน และฉันหวังว่าคุณจะได้เป็นแชมป์ในปีหน้า


ฟิล ฮีธ : คุณแสดงให้ผมเห็นว่าจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร ( Webmaster - หมายถึงว่า เจย์ ถือเป็นอาจารย์ ที่ทำตัวเป็นตัวอย่างว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้เป็นแชมป์ในวันข้างหน้า ) และผมจะทำให้ดีที่สุด และจะพยายามไม่ให้ตัวเองล้มลงในโคลน


       ในปี พ.ศ.2554  /  ค.ศ.2011 ไม่มีอะไรหยุดยั้งฟิล ได้อีกแล้ว เพราะในปีนี้เขาได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกไปอีกขั้น จนทำให้เขาอยู่เหนือเจย์ คัทเลอร์ บนเวทีประกวดได้ และได้กลายเป็นมิสเตอร์โอลิมเปียในที่สุด

มันเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์  หลายคนยังจำภาพถ่ายของฟิล และเจย์ ตอนนี้ได้ มันเป็นภาพของฟิล นักกีฬารุ่นเยาว์ ที่ถายพร้อมกับ เจย์ ยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้ที่ฟิล นับถือเอามากๆ บนเวทีเดียวกัน ก่อนที่จะประกาศผลการแข่งขัน ในปี พ.ศ.2554  /  ค.ศ.2011 นั้นเอง

       หลายปีต่อมา นักกีฬาทั้งสองคนนี้ก็ยังยืนอยู่บนเวทีเดียวกันในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน แต่ ฟิล ก็ยังคบชนะอยู่


* * * พ.ศ.2555  /  ค.ศ.2012 - ฟิล ฮีธ ได้รับถ้วยรางวัลแซนดาวน์ เป็นครั้งที่สองในปีถัดมา เขาต้องต่อสู้กับ ไค กรีน  แต่ว่าด้วยร่างกายที่สมมาตรอย่างสมบูรณ์แบบของ ฮีธ ทำให้เขาคว้าชัยชนะมาได้

       บรานช์ วาร์เรน  กลับมาเวทีประกวดอีกครั้งหลังจากการได้รับบาดเจ็บที่กล้ามต้นขาด้านหน้าในปีที่แล้ว  ,และในปีนี้ เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ อีวาน เซนโตปานี ( Evan Centopani ) บนเวทีโอลิมเปีย หลังจากที่ตัดสินใจไม่ลงแข่งขันโอลิมเปีย เมื่อปีที่แล้ว

       มีการคาดเดากันว่า ไบโตลา แอบบาสเพอ ( Baitollah Abbaspour ) และ เฟร็ด สมอล ( Fred Smalls ) อาจไม่แข่งขันกันโอลิมเปียในปีนี้ แต่ถึงเวลาจริงๆแล้ว ทั้งคู่ปรากฏตัวบนเวทีประกวดจนได้

       ปีนี้ เจย์  คัทเลอร์ บอกกับสื่อว่า เขาจะกลับมาเป็นแชมป์ให้ได้ในปีหน้า ให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย  


 * * * พ.ศ.2556  /  ค.ศ.2013 - ฟิล ฮีธ ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปียในสมัยที่สาม  ส่วนการกลับมาของเจย์  คัทเลอร์ ก็ทำได้แค่เพียงที่หก

       ไค กรีน ได้อันดับสอง ในขณะที่การฝึกอย่างหนักมาทั้งปีของ เดนนิส วูล์ฟ ช่วยให้เขามาได้ถึงอันดับสาม


 * * * พ.ศ.2557  /  ค.ศ.2014 - ฟิล ฮีธ ปกป้องตำแหน่งของเขาเป็นครั้งที่สี่  ส่วน ไค  กรีน ได้อันดับสอง และ ชอว์น โรเดน ( Shawn Rhoden ) จบที่อันดับสาม


* * * พ.ศ.2558  /  ค.ศ.2015 ถึง พ.ศ.2559  /  ค.ศ.2016 - ฟิล ฮีธ ยังครองตำแหน่งแชมป์  เอาชนะได้ทั้ง เด็กซ์เตอร์ แจ็กสัน , ชอว์น โรเดน และ บิ๊กเรมี่


       ฟิล ฮีธ คว้าแชมป์มิสเตอร์โอลิมเปีย 7 สมัยติดต่อกันเช่นเดียวกับที่ อาร์โนลด์  ชวาร์เซเน๊กเกอร์ ทำเอาไว้  และ "ถ้า" ได้สมัยที่ 8 ด้วยเขาก็จะทำสถิติเทียบเท่ากับ ลี ฮานีย์ และ รอนนี่ โคลแมน ( Webmaster - ลี ฮานีย์ และ รอนนี่ โคลแมน ต่างก็เป็นแชมป์มิสเตอร์โอลิมเปีย 8 สมัยซ้อน )

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

ชอว์น  โรเดน  /  Shawn  Rhoden

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2561  /  ค.ศ.2018 


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : ชอว์น โรเดน ( Shawn Rhoden )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 2 เมษายน พ.ศ.2518  /  April 2, 1975 

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 43 ปี

ความสูง : 178 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 10 นิ้ว 

น้ำหนัก :  ช่วงฤดูการแข่งขัน 109 กก. ( 240 ปอนด์ )  /  ช่วงนอกฤดูการแข่งขัน 118 กก. ( 260 ปอนด์ )


      ในปี พ.ศ.2561  /  ค.ศ.2018  ชอว์น  โรเดิน ทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้มาก่อนใน 7 ปี ด้วยการเอาชนะ ฟิล ฮีธ ได้

       ฟิล ฮีธ ทุกข์ทรมานจากปัญหาช่องท้องมาตั้งแต่ตอนที่ประกวดมิสเตอร์โอลิมเปีย ค.ศ.2017 ( คือ 1 ปีก่อนหน้านี้ ) เขาต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขอาการบาดเจ็บ แม้ว่าจะยังไม่หายดีนัก แต่ฟิล ก็ขึ้นประกวดในปีนี้เพื่อป้องกันตำแหน่งด้วย

       นักเพาะกายกล้ามสวยๆหลายคนปรากฏตัวบนเวทีในปีนี้ แต่ ชอว์น มีร่างกายที่ดีที่สุด สวยที่สุด เขาจึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะได้แชมป์ในปีนี้ 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -      

แบรนดอน เคอร์รี่  /  Brandon Curry

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2562  /  ค.ศ.2019


ข้างล่างนี้ )

ชื่อ : แบรนดอน เคอร์รี่ ( Brandon Curry )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 19 ตุลาคม พ.ศ.2525  /  October 19, 1982 

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 37 ปี

ความสูง : 172.5 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 8 นิ้ว

น้ำหนัก : 115.7 -120.2 กก. ( 255 - 265 ปอนด์ )  

สัดส่วน : ต้นแขน 21 นิ้ว ( 53.34 ซม. )  /  หน้าอก 48 นิ้ว ( 121.92 ซม. )  /  เอว 34 นิ้ว ( 86.36 ซม. )

       รูปแบบการจัดงานประกวดมิสเตอร์โอลิมเปียในปีนี้ แตกต่างออกไปจากที่เคยเป็นมา นั่นเป็นเพราะทางผู้จัด ได้จัดทีมงานใหม่สำหรับบริหารจัดการการแข่งขันในปีนี้

       ชอว์น โรเดิน ( มิสเตอร์โอลิมเปียปีที่แล้ว ) ถูกจับกุมในข้อหาช่มขืนกระทำชำเรา และคดียังไม่ตัดสิน ทางคณะกรรมการ มีความเห็นร่วมกันว่าจะไม่ให้เขา ( ชอว์น โรเดน ) ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชปม์ในปีนี้ นั่นหมายถึงว่า ตำแหน่งแชมป์ว่างในปีนี้  อีกทั้ง บิ๊กเรมี่ และ ฟิล ฮีธ ก็ไม่ปรากฏตัวในงานประกวดปีนี้อีก

       เมื่อ ชอว์น  โรเดิน , บิ๊กเรมี่ และฟิล ฮีธ ไม่เข้าร่วมการประกวด นั่นจึงเปิดโอกาสให้นักเพาะกายระดับสูงคนอื่นๆ อันได้แก่ วิลเลียม โบแน็ค - William Bonac  /  เด็กซ์เตอร์ แจ็กสัน - Dexter Jackson  /  ฮาดี ชูแปน - Hadi Choopan  และ แบรนดอน เคอร์รี่ - Brandon Curry  ได้เข้าต่อสู้กัน เพื่อช่วงชิงตำหน่งแชมป์

       แบรนดอน เคอร์รี่ ได้เป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนเวที และได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย คนที่ 15  , ส่วนโบแน็ค ได้อันดับ 2 , ชูแปน ได้ที่ 3 และ แจ็กสัน ได้ที่ 4 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

แมมเดาะห์ อิสะบิแอห์  /  Mamdouh Elssbiay

มิสเตอร์โอลิมเปีย พ.ศ.2563  /  ค.ศ.2020


ข้างล่างนี้ )
 

ชื่อ : แมมเดาะห์ อิสะบิแอห์ ( Mamdouh Elssbiay )

วันเดือนปีที่เกิด
 : 16 กันยายน พ.ศ.2527  /  September 16, 1984

อายุ ขณะที่ได้เป็นมิสเตอร์โอลิมเปีย : 36 ปี

ความสูง : 178 เซนติเมตร  /  5 ฟุต 10 นิ้ว

น้ำหนัก : 140 กก. ( 310 ปอนด์ ) 

      การแข่งขันปีนี้ จัดขึ้นที่ ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 56 ครั้งที่เคยมีรายการมิสเตอร์โอลิมเปียมา ก็เลยจัดงานแบบต่อเนื่องถึง 6 วัน คือวันที่ 15 ถึง 20 ธันวาคม พ.ศ.2563 ประกอบไปด้วยงานย่อยต่างๆเชืนการแข่งขันรอบสมัครเล่น ฯลฯ โดยมีกิจกรรมหลักคือการแข่งขันรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย   


       วันที่ 18 ธันวาคม 2563 - จัดรอบชิงชนะเลิศ รายการ Fitness Olympia , รายการ Figure Olympia และรายการ Classic Physique และมีรอบ Pre judging ของรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย ในช่วงกลางคืนด้วย


       วันที่ 19 ธันวาคม 2563 - ในตอนเช้า จัดรอบชิงชนะเลิศรายการ Men's Physique Olympia และรายการ Women's Physique Olympia 

       ในตอนกลางคืน จัดรอบชิงชนะเลิศรายการ Bikini Olympia รายการ 212 Olympia และท้ายสุดก็คือรายการ Mr.Olympia

       ผลการแข่งขันรายการ Mr.Olympia 2020 ก็คือ แมมเดาะห์ อิสะบิแอห์ คว้าแชมป์ได้ ส่วนมิสเตอร์โอลิมเปียปที่แล้ว ( 2019 ) แบรนดอน เคอร์รี่ ได้ลำดับ 2  /  ส่วนฟิล ฮีธ ก็ไม่สามารถทวงคืนบัลลังก์ได้ และได้แค่อันดับ 3 


       ประวัติความเป็นมาของรายการประกวดที่เป็นตำนาน นั่นคือรายการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปีย ที่ประกอบไปด้วยความหลากหลาย , มีทั้งแผนการที่น่าประหลาดใจ รวมไปถึงผลการตัดสินที่ไม่คาดคิด , การเกิดขึ้นของดวงดาวที่จรัสแสงเป็นครั้งแรก  ซึ่งนักกีฬาเหล่านั้นได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปีย ตลอดไป 

       อย่างที่คุณเห็น เวทีประกวดมิสเตอร์โอลิมเปียเป็นสถานที่แห่งสงครามและการแข่งขัน แต่ขณะเดียวกัน การเพาะกายก็เป็นกีฬาที่รวมผู้คนด้วยความคิดเดียวกัน ไปสู่เป้าหมายเดียวกันนั่นคือความสมบูรณ์ของร่างกาย และจิตวิญญาณ 
  

- END - 

 1  <  2


Sunday, March 14, 2021

Hadi Choopan

 

- หน้า 3 ( หน้าสุดท้าย ) -


รายการประกวดที่ผ่านมา :

ค.ศ.2008 ( พ.ศ.2551 )
* * * Babol National Tournament – 3rd
* * * Saari National Tournament – 2nd 

ค.ศ.2009 ( พ.ศ.2552 ) 
* * * Saari National Tournament – 2nd
* * * Rasht National Tournament – 2nd

ค.ศ.2010 ( พ.ศ.2553 ) 
* * * Saari National Tournament – 1st 

ค.ศ.2011 ( พ.ศ.2554 )
* * *Mashhad National Tournament – 1st

ค.ศ.2012 ( พ.ศ.2555 )
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Silver Medal

ค.ศ.2013 ( พ.ศ.2556 ) 
* * * WBPF Asia Championships – Gold Medal/Overall 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal 

ค.ศ.2014 ( พ.ศ.2557 ) 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal

ค.ศ.2015 ( พ.ศ.2558 ) 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal 

ค.ศ.2017 ( พ.ศ.2560 ) 
* * * Mr. Olympia Amateur – Gold Medal/Overall
* * * IFBB Sheru Classic Pro – Silver Medal 
* * * Asia Grand Prix – Silver Medal 
* * * San Marino Pro – Silver Medal 

ค.ศ.2018 ( พ.ศ.2561 ) 
* * * Dubai Expo – Silver Medal
* * * IFBB Portugal Pro – 1st
* * * Asia Grand Prix – Gold Medal

ค.ศ.2019 ( พ.ศ.2562 ) 
* * * IFBB Vancouver Pro – Gold Medal 
* * * Mr.Olympia – 3rd, The people’s choice award 


 1  <  2  <  3 

Hadi Choopan

 

- หน้า 2 -


ประวัติโดยสังเขป :  

       คุณฮาดี ชูแปน มีบ้านเกิดอยู่ที่ Sepidan County, Fars Province ประเทศอิหร่าน เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เขาจึงต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ยังเด็กโดยการของของและทำงานก่อสร้าง

       ความสนใจในการเพาะกายของคุณฮาดีเริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2543 เมื่ออายุได้ 13 ปี โดยเขาชอบที่จะเลียนแบบท่าโพสของนักเพาะกายชื่อดังให้คนในบ้านดู แต่ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กจึงมักจะโดนล้อหรือสบประมาทจากคนรอบข้างบ่อย ๆ

       ในปี พ.ศ.2545 คุณฮาดีเริ่มเพาะกายอย่างจริงจังโดยมีโค้ชคนแรกช่วยฝึกสอน ในช่วงแรกของการฝึก โค้ชให้คุณฮาดียกน้ำหนักแค่ 5 กก.  แต่ถึงกระนั้นคุณฮาดีก็ยังเดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้

       ภายในสามปีแรกของการก้าวขึ้นสู่วงการ คุณฮาดีได้รางวัลชนะเลิศในเวทีระดับท้องถิ่น ลำดับที่สามและหนึ่ง ( ในปี พ.ศ.2548 ) ในการแข่งขันระดับประเทศ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่น่าจับตามอง

       ชีวิตในสายอาชีพเพาะกายของคุณฮาดี เริ่มทะยานรุ่งโรจน์ตั้งแต่ตอนนั้นมา ด้วยรางวัลในเวทีระดับสูงต่าง ๆ มากมาย จนกระทั้ง ในปี พ.ศ.2560 เขาได้เริ่มฝึกกับโค้ชชื่อดัง ฮานี แรมบอด ( Hany Rambod ) และผลก็คือเหรียญทองในรายการสมัครเล่น 2017 Mr.Olympia Amateur ในปีเดียวกันนั้น อีกเหตุการณ์ที่น่ากล่าวถึงคือ ในรายการ 2017 Asia Grand Prix คุณฮาดีพ่ายแพ้ให้แก่แชมป์ 212 โอลิมเปียหลายสมัย เฟลกซ์ ลูอิส ( Flex Lewis ) อย่างน่ากังขาต่อสายตาคนดู

       ล่าสุด ในปี พ.ศ.2562 คุณฮาดีลงแข่งขันในรายการ Mr.Olympia โดยได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รองจากที่คุณแบรนดอน เคอรี่ ( Brandon Curry ) มิสเตอร์โอลิมเปียคนล่าสุด และคุณวิลเลียม บอแนค ( William Bonac ) ซึ่งอาจถือเป็นปรากฏการณ์ก็ว่าได้เพราะนี้เป็นเวทีโอลิมเปียแรกของคุณฮาดี ยิ่งไปกว่านั้น คุณฮาดียังได้รางวัล The People’s Choice Award ควบอีกหนึ่งรางวัลด้วย

       เบื้องหลังกว่าจะเป็นความสำเร็จนี้ คุณฮาดีต้องผ่านอุปสรรคมากมายก่อนจะได้ผ่านเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าแข่งขัน จากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านกับอเมริกาที่มีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในทีแรกเขาถูกปฏิเสธการขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ แต่ในที่สุด ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย คุณฮาดีก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาแข่งขันได้ อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ.2563 นี้ เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าคุณฮาดีจะเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่อย่างไร เนื่องด้วยปัจจัยทางการเมืองระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์การสังหารนายพลสุไลมานีโดยการสั่งการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา


 1  <  2  >  3