Tuesday, March 30, 2021

Gluteus minimus

 

Gluteus minimus 

กลูเตียสมินิมัส

กล้ามเนื้อส่วนสะโพก

กลูเตียสมินิมัส

       Gluteus minimus - กลูเตียสมินิมัส - เป็นกล้ามเนื้อสะโพกหรือกล้ามเนื้อกลูเตียลมัดที่เล็กที่สุดจากทั้ง 3 มัด โดยอยู่ใต้กล้ามเนื้อกลูเตียสมีเดียส ( Gluteus medius ) 

       กล้ามเนื้อมัดนี้มีจุดเริ่มอยู่ที่ผิวด้านนอกของกระดูกเชิงกรานตรงบริเวณที่เรียกว่า ilium ระหว่างด้านหลังและด้านหน้าของเส้นแนวกลูเตียล ( gluteal lines ) และมีเส้นประสาทกล้ามเนื้อสะโพกด้านบน ( superior gluteal nerve ) มาเลี้ยง 


หน้าที่

       กล้ามเนื้อกลูเตียสมินิมัสทำงานร่วมกับสะโพกเพื่อรักษาเสถียรภาพของกระดูกเชิงกรานเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลูเตียสแม็กซิมัสเคลื่อนไหวข้อต่อสะโพกได้ เช่นการเหยียดออก การงอเข้า และการหมุน ซึ่งเราไม่สามารถแยกการทำงานของกล้ามเนื้อแต่ละมัดออกจากกันได้เนื่องจากกล้ามเนื้อนั้นมีการเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อสะโพกโดยอาศัยเส้นประสาทและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ

- END - 

Gluteus maximus

 

Gluteus maximus

กลูเตียสแม็กซิมัส

กล้ามเนื้อส่วนสะโพกและก้นกบ 

        Gluteus maximus - กลูเตียสแม็กซิมัส - เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และหน้าที่สุดของส่วนสะโพก มีจุดเกาะที่ Ilium และ Sacrum ของกระดูกเชิงกราน แล้วไปเกาะยังกระดูกต้นขา ทำหน้าที่เหยียดขา กางต้นขา หมุนต้นขา ไปทางด้านข้าง


- END -  

Sunday, March 28, 2021

Clean and Jerk

 

Clean and Jerk

      ท่า Clean and Jerk ประกอบด้วยท่าหลัก 2 ท่าด้วยกัน คือ

       1.ท่า Clean - คือการบกบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้น แล้วเอาบาร์เบลล์นั้นไปอยู่ที่ระดับของหัวไหล่ "แต่" จะไม่มีการค้างจังหวะด้วยการวางบาร์เบลล์ไว้ที่กระดูกไหปลาร้าแต่อย่างใด  คือนักกีฬา จะต้องทำท่าต่อไปโดยทันทีคือ .... ( อันดับ 2 ) 


       2.ท่า Jerk - นักกีฬาจะยกบาร์เบลล์ขึ้นไปเหนือศีรษะทันที โดยยกบาร์เบลล์ขึ้นไปจนสุดแขน และเมื่อสิ้นสุดการทำท่านี้แล้ว นักกีฬาจะต้องยืนนิ่ง โดยแขนทั้งสองข้าง ชูบาร์เบลล์อยู่เหนือศีรษะ แขนเหยียดจนสุด ส่วนเท้าทั้งสองข้าง ก็จะต้องอยู่ในแนวเส้นตรง ( ระนาบในแนวดิ่ง ) กับลำตัว และบาร์เบลล์ 


       ท่า Clean and Jerk จะใช้ในการแข่งขัน Weightlifting โดยทำร่วมกับท่า Snatch  

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  
   
1.ท่า Clean ( อธิบายเพิ่มเติม )

ข้างล่างนี้ )

      นักกีฬาจะย่อตัวลงจับบาร์เบลล์ โดยทำมือเหมือนขอเกี่ยว มือทั้งสองข้างจับบาร์เบลล์ที่ด้านนอกของขา

       ยกบาร์เบลล์มาตรงที่บริเวณหัวเข่า จากนั้นให้ยกบาร์เบลล์ขึ้นอย่างแรงและเร็ว ( ระเบิดจังหวะ ) โดยยกบาร์เบลล์มาวางอยู่ที่บริเวณหน้าคอ และหัวไหล่  /  และย่อขาลงเพื่อเป็นการทำจังหวะให้รองรับการวางบาร์เบลล์ที่หน้าคอ และหัวไหล่ 

       เพื่อจะทำท่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ นักกีฬาจะต้องเหยียดขาทั้งสองข้างขึ้นให้ตรง ( ซึ่งตอนแรก นักกีฬาย่อขาลง เพื่อทำจังหวะให้รองรับการวางเบาร์เบลล์ที่หัวไหล่ ) "พร้อม" กับการดันบาร์ขึ้นจากหัวไหล่เล็กน้อย โดยมีจุดประสงค์ ( ในการดันบาร์ขึ้นจากหัวไหล่เล็กน้อย ) นั้น ก็เพื่อจะทำให้ "ร่างกายท่อนบน" อยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้น  

       ในขณะที่ "ร่างกายท่อนบน" กำลังจะอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นนั้น นักกีฬามักจะขยับมือทั้งสองข้าง ( จากที่จับในตำแหน่งเดิม ) ให้กว้างออกไปเล็กน้อย  และขยับเท่าทั้งสองข้างให้แคบเข้ามาเล็กน้อย เพื่อเป็นการทรงตัว โดยทั้งหมดที่ทำมานี้ ก็คือการทำตัวให้พร้อมที่จะเข้าสู่
จังหวะ Jerk ในลำดับต่อไป ( ข้างล่างนี้ ... ) 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

2.ท่า Jerk ( อธิบายเพิ่มเติม )

ข้างล่างนี้ )

      การทำท่า Jerk จะเริ่มจากตำแหน่งสุดท้ายของท่า Clean  ซึ่งจังหวะสุดท้าย ( ของท่า Clean ) นั้น ก็คือการวางบาร์ไว้ที่หน้าคอและหัวไหล่ของนักกีฬา 

       นักกีฬาจะย่อตัวลงประมาณ 2 - 3 นิ้วด้วยการงอเข่า โดยหลังจะตั้งฉากกับพื้น

       จากนั้นให้ดันบาร์เบลล์ออกจากหัวไหล่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเหยียดหัวเข่าให้ตรง ( ทั้งหมดนี้ ทำในจังหวะเดียวกัน )

       ดันบาร์เบลล์ขึ้นไปเหนือศีรษะ จนกระทั้งเหยียดแขนทั้งสองข้างจนสุด 

       เมื่อทำท่านี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แขนจะเหนียดสุด ส่วนเท้าทั้งสองข้าง ก็จะต้องอยู่ในแนวเส้นตรง ( ระนาบในแนวดิ่ง ) กับลำตัว และบาร์เบลล์    

ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาชาย


ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาหญิง

      ข้อมูล สถิติโลกของนักกีฬาชายและนักกีฬาหญิง 2 อันข้างบนนี้ คือสถิติโลกอย่างเป็นทางการสำหรับการทำ Clean and Jerk ในประเภทชาย 109 กก. ขึ้นไป โดยน้ำหนักสูงสุดที่เคยยกได้ในท่านี้คือ 266 กิโลกรัม ( 586 ปอนด์ ) ในปี พ.ศ.2531 ( ค.ศ.1988 ) โดย Leonid Taranenko แห่งสหภาพโซเวียต

       แต่ต่อมาภายหลัง สถิตินี้ไม่ถือว่าเป็นสถิติโลกอีกต่อไป เพราะสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติได้ปรับโครงสร้างของคลาสน้ำหนักในปี พ.ศ.2536 ( ค.ศ.1993 ) , พ.ศ.2541 ( ค.ศ.1998 ) , พ.ศ.2561 ( ค.ศ.2018 )

- END -

Saturday, March 27, 2021

Snatch ( weightlifting )

 

Snatch ( weightlifting )

      ท่า Snatch เป็นหนึ่งในสองท่าที่ใช้ในการแข่งขันยกน้ำหนักแบบ Weightlifting  ( หรือที่เรียกแบบเต็มว่า Olympic weightlifting ) ( ส่วนที่เหลืออีกท่าหนึ่งคือท่า Clean and Jerk )

       ท่า Snatch คือการยกบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้นแล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ โดยใช้การเคลื่อนไหวต่อเนื่องเพียงครั้งเดียว 

       ท่า Snatch มีอยู่ 4 รูปแบบหลักๆ คือ

       1.Squat Snatch ( หรือ Full Snatch )

       2.Split Snatch

       3.Power Snatch

       4.Muscle Snatch


* * * ท่า Squat Snatch และท่า Split Snatch จะใช้สำหรับการแข่งขัน 


* * * ท่า Power Snatch และท่า Muscle Snatch เป็นท่าที่ใช้ในการฝึก

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

ท่า Squat Snatch

ข้างล่างนี้ )

       ในการทำท่า Squat Snatch นั้น ผู้ยกจะยกบาร์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และดึงตัวเองเข้าไปข้างใต้บาร์เบลล์ โดยพยายามทำให้แขนตรงเพื่อรองรับบาร์ที่อยู่เหนือศีรษะ  จากนั้นก็ยืดตัวเพื่อให้ยืนขึ้นมาอย่างเต็มที่

       โดยในตำแหน่งสุดท้ายที่จะทำการนับคะแนนให้ ก็คือการที่ผู้เข้าแข่งขันยืดตัวขึ้นยืนได้ตรงที่สุด แขนเทั้งสองข้างเหยียดจนสุด 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

ท่า Split Snatch

ข้างล่างนี้ )

       ในการยกท่านี้ ผู้ยกน้ำหนักจะยกบาร์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และดึงตัวเองเข้าไปใต้บาร์ ( คล้ายๆกับการยกในท่า Squat Snatch ) เพียงแต่ในการยกท่านี้ ผู้ยกจะ "แยก" ขาของเขา โดยเอาเท้าข้างหนึ่งไว้ข้างหน้า และเท้าอีกข้างหนึ่งไว้ข้างหลัง 

       ท่านี้ ในตอนแรกที่ยกบาร์ขึ้นจากพื้นนั้น ตัวเองจะได้รับบาร์ที่ต่ำกว่าในการท่าท่า Squat Snatch 

       การยกในท่านี้ ได้รับความนิยม "น้อยลง" ในขณะที่การยกในท่า Squat Snatch ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักยกบางคนที่ยังยกในท่านี้อยู่บ้างเป็นบางโอกาส 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

 ท่า Power Snatch

ข้างล่างนี้ )

      ในการยกท่านี้ ผู้ยกจะยกบาร์เบลให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และรับบาร์ที่อยู่เหนือศีรษะด้วยการงอเข่าและสะโพกเพียงเล็กน้อย

       จากนั้นก็ยืดตัวให้ยืนขึ้น โดยบาร์ยังอยู่เหนือศีรษะอยู่อย่างนั้น 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

ท่า Muscle Snatch

ข้างล่างนี้ )
  
      ท่า Muscle Snatch นี้ เป็นการยกบาร์ ขึ้นไปเหนือศีรษะในจังหวะเดียวเลย โดยล็อคแขนทั้งสองข้างไว้ ( ไม่มีการมาพักบาร์ที่หัวไหล่ก่อน )

       เมื่อยกบาร์ขึ้นมาแล้วก็ยืดสะโพกและเข่าให้ตรงจนสุด

ภาพบน สถิติโลกของนักกีฬาชาย




ภาพบน ) สถิติโลกของนักกีฬาหญิง 

       ท่า Snatch ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกนักกีฬาในกีฬาประเภทต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักกีฬาในกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเต็มพลังเช่น การขว้างค้อน ขว้างจักร ในกีฬาประเภทลาน และ การวิ่งแบบ Sprint ในกีฬาประเภทลู่ รวมไปถึงกีฬาประเภทที่ต้องกระโดดทั้งหลาย

       การฝึกท่า Snatch เป็นการฝึกให้มีการยืดกล้ามเข่าและสะโพกพร้อมกัน เป็นการเลียนแบบจังหวะการเคลื่อนที่ของร่างกายในกีฬาที่พูดมาก่อนหน้านี้ ( ข้างค้อน , จักร , การวิ่งแบบ Sprint และการกระโดด )

       การทำท่า Snatch จะมีความเร็วเฉลี่ย 1.52–1.67 เมตร / วินาที 

- END -   

Sunday, March 14, 2021

Hadi Choopan

 

- หน้า 3 ( หน้าสุดท้าย ) -


รายการประกวดที่ผ่านมา :

ค.ศ.2008 ( พ.ศ.2551 )
* * * Babol National Tournament – 3rd
* * * Saari National Tournament – 2nd 

ค.ศ.2009 ( พ.ศ.2552 ) 
* * * Saari National Tournament – 2nd
* * * Rasht National Tournament – 2nd

ค.ศ.2010 ( พ.ศ.2553 ) 
* * * Saari National Tournament – 1st 

ค.ศ.2011 ( พ.ศ.2554 )
* * *Mashhad National Tournament – 1st

ค.ศ.2012 ( พ.ศ.2555 )
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Silver Medal

ค.ศ.2013 ( พ.ศ.2556 ) 
* * * WBPF Asia Championships – Gold Medal/Overall 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal 

ค.ศ.2014 ( พ.ศ.2557 ) 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal

ค.ศ.2015 ( พ.ศ.2558 ) 
* * * WBPF World Bodybuilding Championships – Gold Medal 

ค.ศ.2017 ( พ.ศ.2560 ) 
* * * Mr. Olympia Amateur – Gold Medal/Overall
* * * IFBB Sheru Classic Pro – Silver Medal 
* * * Asia Grand Prix – Silver Medal 
* * * San Marino Pro – Silver Medal 

ค.ศ.2018 ( พ.ศ.2561 ) 
* * * Dubai Expo – Silver Medal
* * * IFBB Portugal Pro – 1st
* * * Asia Grand Prix – Gold Medal

ค.ศ.2019 ( พ.ศ.2562 ) 
* * * IFBB Vancouver Pro – Gold Medal 
* * * Mr.Olympia – 3rd, The people’s choice award 


 1  <  2  <  3 

Hadi Choopan

 

- หน้า 2 -


ประวัติโดยสังเขป :  

       คุณฮาดี ชูแปน มีบ้านเกิดอยู่ที่ Sepidan County, Fars Province ประเทศอิหร่าน เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เขาจึงต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ยังเด็กโดยการของของและทำงานก่อสร้าง

       ความสนใจในการเพาะกายของคุณฮาดีเริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2543 เมื่ออายุได้ 13 ปี โดยเขาชอบที่จะเลียนแบบท่าโพสของนักเพาะกายชื่อดังให้คนในบ้านดู แต่ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กจึงมักจะโดนล้อหรือสบประมาทจากคนรอบข้างบ่อย ๆ

       ในปี พ.ศ.2545 คุณฮาดีเริ่มเพาะกายอย่างจริงจังโดยมีโค้ชคนแรกช่วยฝึกสอน ในช่วงแรกของการฝึก โค้ชให้คุณฮาดียกน้ำหนักแค่ 5 กก.  แต่ถึงกระนั้นคุณฮาดีก็ยังเดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้

       ภายในสามปีแรกของการก้าวขึ้นสู่วงการ คุณฮาดีได้รางวัลชนะเลิศในเวทีระดับท้องถิ่น ลำดับที่สามและหนึ่ง ( ในปี พ.ศ.2548 ) ในการแข่งขันระดับประเทศ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่น่าจับตามอง

       ชีวิตในสายอาชีพเพาะกายของคุณฮาดี เริ่มทะยานรุ่งโรจน์ตั้งแต่ตอนนั้นมา ด้วยรางวัลในเวทีระดับสูงต่าง ๆ มากมาย จนกระทั้ง ในปี พ.ศ.2560 เขาได้เริ่มฝึกกับโค้ชชื่อดัง ฮานี แรมบอด ( Hany Rambod ) และผลก็คือเหรียญทองในรายการสมัครเล่น 2017 Mr.Olympia Amateur ในปีเดียวกันนั้น อีกเหตุการณ์ที่น่ากล่าวถึงคือ ในรายการ 2017 Asia Grand Prix คุณฮาดีพ่ายแพ้ให้แก่แชมป์ 212 โอลิมเปียหลายสมัย เฟลกซ์ ลูอิส ( Flex Lewis ) อย่างน่ากังขาต่อสายตาคนดู

       ล่าสุด ในปี พ.ศ.2562 คุณฮาดีลงแข่งขันในรายการ Mr.Olympia โดยได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รองจากที่คุณแบรนดอน เคอรี่ ( Brandon Curry ) มิสเตอร์โอลิมเปียคนล่าสุด และคุณวิลเลียม บอแนค ( William Bonac ) ซึ่งอาจถือเป็นปรากฏการณ์ก็ว่าได้เพราะนี้เป็นเวทีโอลิมเปียแรกของคุณฮาดี ยิ่งไปกว่านั้น คุณฮาดียังได้รางวัล The People’s Choice Award ควบอีกหนึ่งรางวัลด้วย

       เบื้องหลังกว่าจะเป็นความสำเร็จนี้ คุณฮาดีต้องผ่านอุปสรรคมากมายก่อนจะได้ผ่านเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าแข่งขัน จากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านกับอเมริกาที่มีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในทีแรกเขาถูกปฏิเสธการขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ แต่ในที่สุด ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย คุณฮาดีก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาแข่งขันได้ อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ.2563 นี้ เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าคุณฮาดีจะเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่อย่างไร เนื่องด้วยปัจจัยทางการเมืองระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์การสังหารนายพลสุไลมานีโดยการสั่งการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา


 1  <  2  >  3