Salsa
ซัลซา ( ซอส )
ซัลซา ( ซอส )
ซัลซา เป็นอาหารประเภทซอสชนิดหนึ่งในอาหารยุโรปและลาตินอเมริกา คำว่าซัลซาเองนั้นหมายถึงซอสในภาษาสเปน ภาษาอิตาลี ภาษากรีก และภาษาตุรกี ( salça )
ส่วนในภาษาอังกฤษ ซัลซาหมายถึงซอสชนิดหนึ่งในอาหารเม็กซิโก ( salsas picantes ) ซึ่งใช้เป็นเครื่องจิ้ม
ลักษณะของซัลซาเป็นซอสที่ทำจากผักและผลไม้หั่นเป็นชิ้น เช่น มะเขือเทศ แตงกวา มะม่วง ใส่พริก หอมแดง ถั่ว ข้าวโพด และเครื่องเทศอื่น ๆ คลุกกับน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชู กินกับอาหารทะเล รสชาติมีตั้งแต่ปานกลางจนถึงเผ็ด
การออกเสียงและที่มาของคำ
คำว่าซัลซาในภาษาอังกฤษนั้นเป็นคำยืมมาจากภาษาสเปน หมายถึงซอส
รากศัพท์ดั้งเดิมมาจากภาษาละติน SALSVS ( "เค็ม" ) ผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาแม่ออกเสียงว่า [ˈsalsa]
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันออกเสียงว่า /ˈsɑːlsə/
ส่วนภาษาอังกฤษแบบบริติชออกเสียงว่า /ˈsælsə/
ความสำคัญของการเก็บรักษา
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าจำเป็นต้องระมัดระวังในการเตรียมและการเก็บรักษาซัลซาเช่นเดียวกับซอสอื่น ๆ เพราะส่วนผสมที่เป็นของดิบสามารถเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่แช่เย็น ดังที่มีรายงานการพบการปนเปื้อน E. coli ในซอสของภัตตาคาร และโรคที่เกิดจากอาหาร 1 ใน 25 ระหว่าง พ.ศ. 2541 - 2551 สามารถติดตามได้ว่ามีที่มาจากซอสในภัตตาคาร ทั้งการเตรียมและการเก็บรักษา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1.Larry R. Beuchat. "Surface decontamination of fruits and vegetables eaten raw: a review" (PDF). World Health Organization. สืบค้นเมื่อ July 22, 2010.
2.Javier A. Adachi, John J. Mathewson, Zhi-Dong Jiang, Charles D. Ericsson, and Herbert L. DuPont. Annals of Internal Medicine, June 2002, Vol. 136, pp. 884–887.
3."Salsa and Guacamole Increasingly Important Causes of Foodborne Disease". สืบค้นเมื่อ July 23, 2010.
แหล่งข้อมูลอื่น
* * * U.S. National Center for Home Food Preservation – Salsas
* * * Salsa Recipes
* * * "History of Salsa". Gourmet Sleuth. สืบค้นเมื่อ August 17, 2006.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การทำซัลซ่า
( ข้างล่างนี้ )
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การทำซัลซ่าที่อร่อย จะต้องใช้มะเขือเทศสดๆเท่านั้น แต่ก่อนเราก็เคยใช้มะเขือเทศกระป๋องทำ แต่พอได้มาทดลองใช้มะเขือเทศสด เราก็เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เพราะรสชาติของซัลซ่าที่ทำจากมะเขือเทศสดมันดีมากๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซัลซ่าจะอร่อยมากขึ้นถ้าได้ใช้มะเขือเทศที่สุกในฤดูกาลของมันพอดี
ในสูตรการทำซัลซ่าของเรา อาจจะลดหัวหอม , กระเทียม และลดความเผ็ดลงบ้าง เพื่อเด็กจะได้ทานได้ ซัลซ่าที่เราทำเอง จะมีรสชาติไม่เหมือนซัลซ่าสำเร็จรูป ( ซัลซ่ากระป๋อง ) เพราะเราจะให้ความสำคัญกับรสชาติเปรี้ยวๆของ มะนาว ( Lime ) สดๆ ซึ่งเป็นรสมาตรฐานของซัลซ่าของประเทศแม็กซิกัน
การใช้น้ำตาลจะใช้กับมะเขือเทศกระป๋องที่ซื้อจากร้านเท่านั้น / ถ้าคุณปลูกมะเขือเทศด้วยตัวเองหรือบังเอิญโตมาในไร่มะเขือเทศล่ะก็ ความหวานนิดๆจากมะเขือเทศสดนั้น จะทำให้คุณไม่ต้องใช้น้ำตาลแต่อย่างใด
ส่วนประกอบ
* * * มะเขือเทศโรม่า สด ( Fresh Roma tomatoes ) - ให้เลือกแบบสดๆ ผลเต่งตึง พยายามหลีกเลี่ยงผลที่นิ่มๆ
* * * มะเขือเทศกระป๋อง ( Canned tomatoes ) - เราจะใช้มะเขือเทศสดเป็นหลัก แต่ก็จะใช้มะเขือเทศกระป๋องเสริมเข้าไปด้วย , การใช้มะเชือเทศกระป๋องจะทำให้ของซัลซ่าที่เราทำ มีรสชาติสม่ำเสมอ ( หมายถึงว่า ทำใหม่กี่ครั้ง รสชาติก็จะเหมือนเดิม )
* * * ผักชีสด ( Fresh cilantro ) - ผักชีสดทำให้ซัลซ่ามีรสชาติที่โดดเด่น , ต้องไม่ลืมเอาผักชีสดใส่ลงไปในซัลซ่าด้วย
* * * พริกจาลาบิโน ( Jalapeno ) - ให้ใช้พริกนี้ "แต่" ถ้าคุณไม่ชอบรสเผ็ด ก็ให้ใช้พริกหยวก ( Bell pepper ) ในปริมาณ 1/4 ถ้วย ( 1/4 cup chopped bell pepper ) หรือไม่ต้องใส่อะไรเลย ( คือไม่ต้องใส่ทั้ง พริกจาลาบิโน และพริกหยวก )
หมายเหตุ - พริกจาลาปิโน ( Jalapeño Chili ) คือพริกผลเล็กที่เผ็ดสะดุ้ง / มีผลสีเขียวเข้มไปจนถึงสีแดง / นิยมนำไปดองหรือยัดไส้ชีส แต่เมื่อนำไปย่าง พริกชนิดนี้จะมีชื่อใหม่ที่เรียกว่า Chipotle Pepper สำหรับเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับอาหารเม็กซิกัน
เมนูจากพริกจาลาปิโน ก็คือ ซัลซ่า , ทาบาสโก , พริกยัดไส้ชีส
* * * หัวหอมแดง ( Red onion ) - หรืออาจจะใช้หัวหอมเหลือง ( Yellow onion ) แทนก็ได้
* * * หัวหอมเขียว ( Green onion ) - แต่ถ้าคุณไม่ต้องการใช้ทั้ง หัวหอมแดง ( Red onion ) และ หัวหอมเขียว ( Green onion ) ก็ไม่เป็นไร มันไม่ได้ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปสักเท่าไร
* * * กระเทียม ( Garlic ) - ให้ใช้กระเทียมสด "เท่านั้น" เพื่อรสชาติที่ดี จงอย่าใช้กระเทียมแบบแพ็คเป็นอันขาด
* * * มะนาว ( Lime ) - สิ่งนี้จะทำให้ซัลซ่ามีรสชาติโดดเด่น , มันคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว
* * * พริกป่นและยี่หร่า ( Chili powder and cumin ) - บางครั้งเราก็ใช้ , บางครั้งก็ไม่ใช้ แต่คำแนะนำของเราก็คือ ถ้าคุณมีพริกป่นและยี่หร่าอยู่ใกล้ๆมือก็จะดีมาก
* * * น้ำตาล ( Sugar ) - ใส่ซัลซ่าเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง / เหตุผลก็เพราะว่า ในซัลซ่าจะมีกรดที่มาจากมะเขือเทศและมะนาวอยู่
* * * เกลือและพริกไทย ( Salt and pepper ) - ถ้าไม่มีสองอย่างนี้ ( คือถ้าไม่มีเกลือและพริกไทย ) จะทำให้รสชาติของซัลซ่าราบเรียบเกินไป
วิธีทำ
* * * สับผักทั้งหมดอย่างหยาบๆ ( รวมทั้งมะเขือเทศด้วย )
* * * เอาผักที่สับไว้ทั้งหมดใส่ลงไปในชามที่เตรียมไว้ พร้อมกับใส่พริกและมะนาว
* * * คุณสามารถใช้เครื่องปั่น ( Blender ) ในการทำซัลซ่าได้
* * * หรือถ้าไม่ใช่เครื่องปั่น คุณก็ใข้มือสับผักและมะเขือเทศก็ได้ โดยสับไป แล้วก็คนไป
เก็บได้นานเท่าไร?
ซัลซ่าที่เราทำเองนี้ ถ้าใส่ชามและผนึกอย่างดี เอาไปใส่ช่องฟรีซเซอร์ในตู้เย็น ก็จะเก็บได้ 1 อาทิตย์
ควรเลือกมะเชือเทศ "กระป๋อง" แบบไหน?
ควรใช้มะเชือเทศเปล่าๆ ( แบบกระป๋อง ) ที่ไม่ได้ปรุงอะไร ( canned plain tomatoes ) หรืออาจจะใช้มะเขือเทศย่าง ชนิดกระป๋อง ( canned fire roasted tomatoes ) ก็ได้
เทคนิคเล็กๆน้อยๆ
* * * ส่วนประกอบซัลซ่า ควรเป็นของสดเท่านั้น
* * * "อย่า" ใส่มะขามป้อม ( Puree )
* * * ความเย็นจะทำให้รสชาติของซัลซ่าดียิ่งขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบเก็บซัลซ่าเข้าตู้เย็นก่อน แล้วค่อยนำออกมาทานในวันที่สอง ( หมายถึงว่าวันแรก วันที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆ จะยังไม่ทาน )
- END -
