Sunday, April 12, 2020

Diet Coke


Diet Coke

      น้ำอัดลมแบบไดเอท เป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในคนที่ต้องการลดการทานน้ำตาล หรือจำกัดแคลอรี่


       ถึงแม้จะไม่ได้ใส่น้ำตาล แต่ในน้ำอัดลมแบบไดเอท ใส่สารให้ความหวานชนิดสังเคราะห์แทน เช่น แอสพาร์เทม ( aspartame ), ไซคลาเมต ( cyclamate ), แซ็กคาริน ( saccharin ), เอซีซัลเฟมเค ( acesulfame-k  ) หรือ ซูคราโลส ( sucralose ) 

       เกือบทุกๆยี่ห้อของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงในท้องตลาด มักผลิตรุ่น “light” หรือรุ่น “diet” ด้วย — Diet Coke, Coke Zero, Pepsi Max, Sprite Zero, ฯลฯ 

       น้ำอัดลมแบบไดเอท เริ่มมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950s โดยแนะนำให้เป็นเครื่องดื่มสำหรับคนเป็นเบาหวาน ต่อมาก็เริ่มทำการตลาดสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการคุมน้ำหนัก และควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหาร

       ทั้งๆที่ปราศจากน้ำตาลและแคลอรี่ แต่ในเรื่องผลต่อสุขภาพของน้ำอัดลมแบบไดเอทเหล่านี้ กลับเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่



น้ำอัดลมแบบไดเอท ไม่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเลย   

       น้ำอัดลมแบบไดเอท เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำโซดา ( carbonated water ) หมายถึง น้ำที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู๋ภายใต้ความดัน , สารให้ความหวานชนิดสังเคราะห์ หรือธรรมชาติ, สารแต่งสี แต่งกลิ่น และวัตถุเจือปนอาหารอื่นๆ

       มักมีแคลอรี่เพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย และไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น ไดเอทโค๊ก 1 กระป๋อง ( 354 มล. ) : ไม่มีแคลอรี่,น้ำตาล,ไขมัน หรือโปรตีนเลย แต่มีปริมาณโซเดียมอยู่ 40 มก.

       อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่น้ำอัดลมแบบไดเอททุกยี่ห้อที่ใช้สารให้ความหวานชนิดสังเคราะห์ แล้วจะปราศจากน้ำตาล หรือแคลอรี่ต่ำ บางยี่ห้อก็ใส่น้ำตาล และสารให้ความหวานผสมกัน ตัวอย่างเช่น Coca-Cola Life 1 กระป๋อง ใช้สารให้ความหวานจากหญ้าหวาน ( Stevia ) มีปริมาณแคลอรี่ 90 แคลอรี่ และมีน้ำตาล 24 กรัม



       ในขณะที่แต่ละยี่ห้อ ก็จะมีส่วนผสมแตกต่างกัน แต่ส่วนผสมหลักๆที่ใช้กันในน้ำอัดลมแบบไดเอท ได้แก่ :

* * * น้ำโซดา ( Carbonated water ): น้ำโซดาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เราเรียกว่าsparkling water แต่น้ำโซดาส่วนใหญ่ จะผลิตจาก การอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงในน้ำ ภายใต้ความดัน


* * * สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ( Sweeteners ): มีทั้งชนิดสังเคราะห์ เช่น แอสพาร์เทม (aspartame), แซ็กคาริน ( saccharin ), ซูคราโลส ( sucralose ) หรือสารให้ความหวานจากสมุนไพร เช่น หญ้าหวาน ( Stevia ) สารพวกนี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 200–13,000 เท่า


* * * กรด ( Acids ): กรดบางชนิด เช่น กรดมะนาว ( citric acid ), กรดมาลิก ( malic acid ) และ กรดฟอสฟอริก ( phosphoric acid ) ถูกใช้เติมลงไปเพื่อเพิ่มความซาบซ่า ซึ่งกรดพวกนี้มีส่วนทำให้เคลือบฟัน ( enamel ) สึก


* * * สารแต่งสี: ที่นิยมใช้มากที่สุดทำจาก แคโรทีนอยด์ ( carotenoid ) เป็นรงควัตถุ ( pigment ) สีเหลือง ส้ม แดง และส้ม-แดง, แอนโทไซยานิน (anthocyanins) เป็นรงควัตถุหรือสารสี ( pigment ) ที่ให้สีแดง ม่วง และน้ำเงิน และคาราเมล ( caramel ) หรือ น้ำตาลที่ผ่านความร้อนจนได้อุณหภูมิที่เหมาะสม


* * * สารแต่งกลิ่นรส: อาจใช้น้ำผลไม้ธรรมชาติ หรือสารสังเคราะห์


* * * สารกันเสีย ( Preservatives ): เพื่อให้มีอายุการเก็บรักษานาน สารกันเสียที่นิยมใช้ คือ เกลือโพแทสเซียมของกรดเบนโซอิก ( potassium benzoate )


* * * วิตามินและเกลือแร่ ( Vitamins and minerals ): ใส่เพื่อประโยชน์ทางการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยขน์ต่อสุขภาพที่ปราศจากแคลอรี่


* * * คาเฟอีน ( Caffeine ): น้ำอัดลมแบบไดเอททั่วไป ก็มีการใส่คาเฟอีนเหมือนน้ำอัดลมปกติ ไดเอทโค้ก 1 กระป๋อง มีคาเฟอีน 46 มก. และไดเอทเป็บซี่มีคาเฟอีน 34 มก.



ผลในเรื่องการช่วยลดน้ำหนักยังเป็นที่ถกเถียงกัน 

       เนื่องจากน้ำอัดลมแบบไดเอทนั้นปราศจากแคลอรี่ ดังนั้น จึงเข้าใจว่าสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ แต่อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่า อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น

       มีการศึกษาวิจัยมากมายกลับพบว่า การใช้สารให้ความหวานชนิดสังเคราะห์ และการดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทมากๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคอ้วน และภาวะเมแทบอลิกซินโดรม ( metabolic syndrome )


       นักวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำอัดลมแบบไดเอท อาจไปเพิ่มความอยากอาหาร โดยไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว, มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตัวรับรสหวานของร่างกาย และไปกระตุ้นการตอบสมองต่อโดปามีน ( dopamine ) ในสมอง

       และเนื่องจากน้ำอัดลมแบบไดเอท ปราศจากแคลอรี่ จึงอาจทำให้คนรับประทานของหวาน และอาหารแคลอรี่สูงมากขึ้น เนื่องจากชะล่าใจ และมีผลให้น้ำหนักขึ้นในที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนในการสรุปคำกล่าวนี้

       อีกทฤษฎีหนึ่ง อธิบายว่า การที่น้ำอัดลมแบบไดเอท มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้น้ำหนักขึ้น เป็นเพราะคนที่ดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทมากๆ เป็นพวกที่มีนิสัยในการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดี ดังนั้น น้ำหนักที่ขึ้นก็อาจเกิดจากอาหารที่กินนั่นเอง ไม่ได้เกิดจากน้ำอัดลมแบบไดเอท



มีงานวิจัยบางชิ้นที่ระบุว่าน้ำอัดลมแบบไดเอทเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ

       มีงานวิจัยพบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมสารให้ความหวานแทนน้ำตาลวันละ 1 serving มีความเกี่ยวข้องกับอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นถึง 8–13% และเกี่ยวข้องกับอัตราเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคความดัน และโรคหัวใจด้วย

       จากการรีวิว 4 การทดลอง ในคน 227,254 คน พบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมสารให้ความหวานแทนน้ำตาลวันละ 1 serving มีความเกี่ยวข้องกับอัตราเสี่ยงในการเป็นความดันสูง เพิ่มขึ้น 9%
แต่เนื่องจากการศึกษาวิจัยเหล่านี้เป็นลักษณะการวิจัยจากการสังเกตุการณ์ จึงอาจเป็นไปได้ว่า คนที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และโรคความดันสูงอยู่แล้ว แค่เลือกดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอท เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น



น้ำอัดลมแบบไดเอท กับสุขภาพไต

       มีการวิจัยได้วิเคราะห์อาหารของคนจำนวน 15,368 คน พบว่า ความเสี่ยงในการเกิดโรคไตระยะสุดท้าย เพิ่มขึ้นตามจำนวนแก้วในการดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทที่เพิ่มขึ้นต่อสัปดาห์

       เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่า 1 แก้วต่อสัปดาห์ พบว่า คนที่ดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทมากกว่า 7 แก้วต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงในการเป็นโรคไตเพิ่มมากขึ้นเกือบ 2 เท่า

       สาเหตุก็น่าจะมาจากน้ำอัดลมแบบไดเอท มีปริมาณฟอสฟอรัสสูง ซึ่งอาจทำให้ไตทำงานหนักในการกำจัดออก

       แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทมากๆ ก็อาจมีแนวโน้มในการรับประทานอาหารและมีการใช้ชีวิตที่อาจเป็นเหตุปัจจัยส่งผลในการเกิดโรคไตได้เช่นเดียวกัน



น้ำอัดลมแบบไดเอท กับการคลอดก่อนกำหนดและโรคอ้วนในเด็ก

       การดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทในขณะที่ตั้งครรภ์ พบว่ามีผลเสียหลายอย่าง รวมทั้งการคลอดก่อนกำหนดและโรคอ้วนในเด็ก

       การศึกษาวิจัยในประเทศนอร์เวย์ ในสตรีมีครรภ์จำนวน 60,761 คน พบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และสารให้ความหวานสังเคราะห์ มีส่วนทำให้อัตราเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดเพิ่มมากขึ้น 11%

       การศึกษาวิจัยในประเทศเดนมาร์ค ในสตรีมีครรภ์จำนวน 60,000 คน ก็ได้ผลคล้ายคลึงกัน โดยพบว่า สตรีที่ดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอท 1 serving/วัน มีแนวโน้มในการคลอดก่อนกำหนดมากกว่าสตรีที่ไม่ได้ดื่ม 1.4 เท่า

       อย่างไรก็ตาม การวิจัยเหล่านี้ ทำโดยการสังเกตุการณ์เท่านั้น และไม่มีการให้คำอธิบายถึงสาเหตุของการดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทที่ส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด

       นอกจากนี้ ยังพบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ใส่สารให้ความหวานสังเคราะห์ ในขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนในเด็กอย่างมีนัยสำคัญ

       มีการวิจัยหนึ่ง พบว่า การบริโภคเครื่องดื่มแบบไดเอทในขณะตั้งครรภ์ ส่งผลให้ความเสี่ยงในการมีทารกน้ำหนักเกิน เมื่ออายุ 1 ปี เพิ่มมากขึ้น 2 เท่า

       จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุในทางชีวภาพ และผลเสียต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว ที่เกิดจากน้ำอัดลมแบบไดเอทในครรภ์มารดา


- END -