Tuesday, April 7, 2020

NEGATIVE TRAINING PRINCIPLE


NEGATIVE TRAINING PRINCIPLE

      บางท่านเรียกกลวิธีนี้ว่า RETRO-GRAVITY REPS  การฝึกตามวิธีนี้จะทำให้ผู้ฝึก มีมัดกล้ามหนาขึ้นและมีกำลังมาก นักสรีรวิทยาการออกกำลังกายในช่วงทศวรรษ 1960 มักแนะนำให้ใช้เทคนิคนี้

       ยุทธวิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยเพื่อนคู่ฝึกที่แข็งแรงสองคนขึ้นไป  หลังจากที่ผู้ฝึกได้อุ่นเครื่องด้วยท่าฝึกหลัก เช่น ท่า BENCH PRESS ซึ่งท่าฝึกนี้ เป็นท่าฝึกอกที่ทรงประสิทธิภาพและมีมาตรฐานที่สุดในโลก  เริ่มแรกให้ผู้ฝึกใช้บาร์เบลล์ที่มีน้ำหนักปานกลาง และฝึกด้วยจำนวนครั้งที่ไม่ถึงจุดอ่อนแรง เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง สำหรับกล้ามอก ไหล่ด้านหน้าและแขนด้านหลัง   พอถึงคราวฝึกจริง ผู้ฝึกใช้บาร์เบลล์ที่มีน้ำหนัก 130 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักที่ผู้ฝึก สามารถออกแรงต้านได้หนึ่งครั้ง (130 เปอร์เซ็นต์ของ 1 RM)

       ตัวอย่างเช่น ผู้ฝึกสามารถฝึกท่าเบนซ์ เพรส ได้หนึ่งครั้งเมื่อใช้บาร์เบลล์หนัก 100 ปอนด์ เมื่อฝึกด้วยเทคนิคนี้ผู้ฝึก ต้องใช้บาร์เบลล์หนัก 130 ปอนด์ ผู้ฝึกนอนหงายบนม้าฝึก เพื่อนคู่ฝึกสองคน หรือมากกว่าสองคน ช่วยกันยกบาร์เบลล์ส่งให้ผู้ฝึก ขณะที่ผู้ฝึก เหยียดแขนทั้งสองขึ้นจับคานบาร์เบลล์ หายใจออก แล้วผ่อนคานบาร์เบลล์ลงสู่อกอย่างช้า ๆ พร้อมกับหายใจเข้า เพียงลำพัง  จากนั้นเพื่อนคู่ฝึกจะช่วยกัน ยกบาร์เบลล์กลับวางที่ขาตั้งดังเดิม พักสัก 30-60 วินาที แล้วฝึกซ้ำครั้งที่สอง ฝึกอย่างนี้จนครบ 8-10 ครั้ง

       การฝึกวิธีนี้ทำให้ก้าวสู่สภาวะหักโหมได้ง่าย  ดังนั้นจึงควรใช้เฉพาะกับการฝึกเพาะกายขั้นสูงเท่านั้น และควรใช้เพียงหนึ่งคาบ  ฝึกสลับกับการฝึกแบบปกติ 3-4 คาบ  การจัดกำหนดการฝึกแบบนี้ก็เพียงพอต่อการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้ออย่างมีคุณภาพ  และเทคนิคนี้ให้ใช้หลังจากผู้ฝึกก้าวเข้าสู่จุดอ่อนแรง จนไม่สามารถออกแรงต้านในระดับ positive ได้ในการเคลื่อนไหวท่าฝึกแบบเคร่งครัด


(หมายเหตุ - คำว่า positive ในที่นี้หมายถึงว่า ความสามารถในการออกแรงต้าน ผลัก ดัน กด ยก หรือดึงน้ำหนัก ในลักษณะที่ สวนทางกับแรงกดดัน ของอุปกรณ์ฝึก)


- END -