Saturday, February 22, 2025

เรื่องราวแห่งความสำเร็จ: ยานีฟ ซูร์ ( Yaniv Zur )

 




เรื่องราวแห่งความสำเร็จ: ยานีฟ ซูร์ ( Yaniv Zur )

การสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ ครอบครัว และฟิตเนสระดับสูง

เขียนโดย รอน แฮร์ริส ( Ron Harris ) – ภาพถ่ายโดย เพอร์ แบร์นัล ( Per Bernal )

ข้างล่างนี้ )




       ( ภาพบน ) มันเป็นเรื่องง่ายที่ใคร ๆ จะหาข้ออ้างว่าทำไมพวกเขาถึง "ไม่สามารถ" กินอาหารให้ถูกต้องและออกกำลังกายเป็นประจำได้ เช่น “ฉันต้องทำงาน! ฉันต้องบริหารธุรกิจ! ฉันต้องดูแลลูก!” หลายคนเชื่อว่าผู้ที่มีร่างกายที่ยอดเยี่ยมต้องมีเวลาทั้งหมดในชีวิตเพื่อทุ่มเทให้กับการฝึกฝนร่างกายของตัวเอง โดยไม่มีภาระหน้าที่อื่นเลย

       ผมได้ยินข้ออ้างเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากนำเสนอเรื่องราวของบุคคลที่สามารถทำทุกอย่างได้สำเร็จ — ทั้งการประสบความสำเร็จในธุรกิจ การมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ และยังคงรักษาร่างกายที่แข็งแกร่งระดับนักกีฬาได้ และยิ่งไปกว่านั้น หากบุคคลนี้มีอายุมากกว่า 40 ปี เหมือนผม ก็ยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่! 

       นั่นคือเหตุผลที่ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอเรื่องราวของ ยานีฟ ซูร์ ( Yaniv Zur ) จากลอสแอนเจลิส ในเดือนนี้



จากความลำบากสู่ความมั่งคั่ง: ความฝันแบบอเมริกัน

       ยานีฟ ซูร์ (Yaniv Zur) เติบโตในเขตชานเมืองของเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เขาชื่นชอบการเล่นบาสเกตบอลและการดำน้ำลึก ก่อนจะสมัครเข้ารับราชการทหารเมื่ออายุ 18 ปี ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่รับใช้กองทัพ เขาถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่สงคราม เช่น เลบานอนและที่ราบสูงโกลัน 

       หลังจากปลดประจำการ เขาแต่งงานและมีลูกสองคน จากนั้นเขาตัดสินใจย้ายไป ลอสแอนเจลิส ในปี 2004 เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าสำหรับครอบครัวของเขา “ช่วงแรก ๆ มันยากมาก” ยานีฟเล่าว่า “ผมแทบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย” 

       เขาเริ่มทำงานติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง จากนั้นจึงย้ายไปทำงานกับบริษัทรับเหมาทาสีและงานผนังแห้ง ( Drywall ) 

       ในปี 2008 เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย และบริษัทที่เขาทำงานอยู่ต้องปิดตัวลง ยานีฟต้องเผชิญกับภาวะ ตกงานและไม่มีอนาคตที่แน่นอน เพื่อรับมือกับความเครียดและภาวะซึมเศร้า เขาเริ่มตื่นนอนตั้งแต่ 03:00 - 04:00 น. เพื่อไปออกกำลังกายที่ 24-Hour Fitness 

       ในช่วงเวลานั้น ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม และยานีฟไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขายบ้านของเขาในอิสราเอลเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว แต่เงินก้อนนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน 

       “มันเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก แต่ในที่สุดมันก็บังคับให้ผมต้องเปิดธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำอยู่แล้ว” ยานีฟกล่าว 

       ธุรกิจแรกของเขาเป็นบริษัทรับเหมาทาสีสำหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งต่อมาเขาได้มีโอกาสทำงานให้กับ เหล่าคนดัง เช่น จัสติน บีเบอร์ ( Justin Bieber ) และนักกีฬา NBA ยานีฟยังได้ทำงานให้กับ คริส พอล ( Chris Paul ) นักบาสเกตบอลชื่อดัง บริษัท Eco Green Industries ของเขาได้ขยายไปสู่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มากขึ้น และปัจจุบันทำรายได้ประมาณ 4-5 ล้านดอลลาร์ต่อปี

       นอกจากนี้ ยานีฟยังลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเขาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งใน ลอสแอนเจลิส และเพิ่งเข้าซื้อ อพาร์ตเมนต์ 7 แห่งในรัฐอาร์คันซอ






 
       
ภาพบน ) "คุณไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับแต่ยิมและมื้ออาหารของคุณเพียงอย่างเดียวเพื่อให้มีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถรักษาสมดุลได้ ตราบใดที่คุณมีแรงผลักดันและบริหารเวลาของคุณอย่างชาญฉลาด" 




ฟิตเนสทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ 

       แทนที่จะมองว่าการมีไลฟ์สไตล์ฟิตเนสที่จริงจังเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายในด้านอื่น ๆ ของชีวิต ยานีฟ ซูร์ ( Yaniv Zur ) กลับมองว่ามันเป็น องค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จโดยรวมของเขา

       “ผมจะรู้สึกหงุดหงิดถ้าไม่ได้ไปยิม” เขาบอกกับเรา “และในการประชุมงานของผม ถ้าผมไม่ได้ออกกำลังกายมาก่อน ผมจะมีปัญหาในการโฟกัสและปรับอารมณ์ให้เหมาะสม”

       เขาสามารถผสมผสานการออกกำลังกายระดับสูงเข้ากับกิจวัตรประจำวันได้อย่างไร้รอยต่อ

* * * เขาตื่นนอนเวลา 06:00 น. กินมื้อแรกของวัน

* * * 07:30 น. อยู่ที่ยิม 

* * * หลังจากอบอุ่นร่างกายและยืดกล้ามเนื้อ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับเวทเทรนนิ่ง และอีก 30 นาทีสำหรับคาร์ดิโอ 

* * * 09:30 น. อาบน้ำและเริ่มต้นวันใหม่กับธุรกิจของเขา ซึ่งรวมถึงการบริหารบริษัทและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ 

* * * ช่วงเย็นเป็นเวลาสำหรับ ครอบครัว เขาใช้เวลาร่วมกับภรรยาของเขา กาลิต ( Galit ) และลูก ๆ อายุ 25 ปี, 23 ปี และ 14 ปี 

       “ผมชอบผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำ สูบซิการ์ดี ๆ สักมวน และเรายังหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนในที่ต่าง ๆ เช่น อิตาลี ปารีส และเม็กซิโก เพียงแค่เพลิดเพลินกับชีวิตและครอบครัวของผม” 





"ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจ"

       แม้ว่ายานีฟ ซูร์ ( Yaniv Zur ) จะตั้งเป้าที่จะเป็นนักกีฬา IFBB Pro แต่เป้าหมายหลักของเขาคือ การสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และมีสุขภาพดีที่สุด

       “คุณไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับแต่ยิมและมื้ออาหารของคุณเพียงอย่างเดียวเพื่อให้มีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม” เขาอธิบาย “คุณสามารถรักษาสมดุลได้ ตราบใดที่คุณมีแรงผลักดันและบริหารเวลาของคุณอย่างชาญฉลาด” 

       หลายคนมักตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง โภชนาการ 

       “ใช่ การเตรียมอาหารและการกินคลีนเป็นกุญแจสำคัญในการมีรูปร่างที่ดีเยี่ยม” เขากล่าว “แต่ผมก็ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มสักสองแก้วหรือกินพิซซ่าในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ ถ้าผมต้องการ เพราะตลอดทั้งสัปดาห์ผมกินสะอาดอยู่แล้ว” 


ฟิตเนสคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ

       การออกกำลังกายและโภชนาการที่ดีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของยานีฟมาตลอด ตลอดหลายปีที่เขาสร้างธุรกิจของตัวเอง เขายังคงให้ความสำคัญกับฟิตเนส ซึ่งเขามองว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ

       “ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่คิดว่าตัวเองยุ่งเกินไป หรือแก่เกินไปที่จะมีรูปร่างที่ดี” เขากล่าว “คุณทำได้! และคุณจะต้องดีใจที่คุณเริ่มลงมือทำ”


* * * ติดตามเขาได้ที่ Instagram: @yanivzur






 
เกี่ยวกับผู้เขียน

       
รอน แฮร์ริส ( Ron Harris ) เริ่มต้นอาชีพในวงการเพาะกายในช่วง 8 ปีที่เขาทำงานในลอสแอนเจลิส โดยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ( Associate Producer ) ให้กับรายการ American Muscle Magazine ของช่อง ESPN ในช่วง ยุค 90 ( ประมาณ พ.ศ. 2533 - 2542 )

       ตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา เขาได้เขียนบทความเกี่ยวกับ เพาะกายและฟิตเนส ลงในนิตยสารต่าง ๆ มากกว่า 5,000 บทความ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเขียนสายเพาะกายที่มีผลงานมากที่สุดตลอดกาล

       รอนเริ่มฝึกเพาะกายตั้งแต่อายุ 14 ปี และเริ่มแข่งขันตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสองคนในพื้นที่ บอสตัน 



- จบ -


Thursday, February 6, 2025

โชว์กล้ามแขนในหน้าร้อนปีนี้

 




โชว์กล้ามแขนในหน้าร้อนปีนี้ 


ข้างล่างนี้ )




ปั้นแขนใหญ่กลางแสงแดด!

อวดแขนใหญ่ในซัมเมอร์นี้! โดย รอน แฮร์ริส (Ron Harris) 



       ลองถามใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ให้พวกเขาแสดงกล้ามเนื้อ แล้วดูว่าพวกเขาทำอะไร? แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่หันหลังกลับแล้วโชว์โพสเดี่ยวของกล้ามปีก ( Lat Spread ) หรือสะบัดขาเพื่อโชว์กล้ามขา ( Quad Pose ) แต่เกือบทุกคนจะโชว์ โพสกล้ามแขนสองข้างด้านหน้า ( Front Double Biceps Pose ) ทันที ไม่ว่าจะเป็นเด็กประถม นักศึกษาที่ไปเที่ยวช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ หรือแม้แต่นักสู้ UFC ที่กำลังทำท่าทางฉลองหลังการชั่งน้ำหนัก


ทำไมถึงเลือกกล้ามแขน? 

       เพราะแขนใหญ่แสดงถึงพลังและความมั่นใจ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีใครเคยข้ามวันฝึกกล้ามแขนไปเลยในประวัติศาสตร์การเพาะกาย

       แต่อย่างไรก็ตาม นอกยิม แขนของเรามักถูกซ่อนจากสายตาผู้คน เนื่องจากสวมเสื้อแขนยาว เสื้อกันหนาว แจ็คเก็ต หรือเสื้อโค้ทเกือบตลอดเวลาในช่วงอากาศหนาวและเทาๆ ด้านนอก

       แต่เมื่อฤดูร้อนมาเยือน และแสงแดดกลับมา พร้อมกับอากาศที่ร้อนขึ้นและวันที่ยาวนานกว่าเดิม เสื้อแขนสั้น เสื้อกล้าม และเสื้อไม่มีแขนจะทำให้คุณสามารถ โชว์กล้ามแขนได้เต็มที่ในแบบที่คุณภูมิใจ
       ฤดูร้อนใกล้เข้ามาแล้ว ทำไมไม่ลองทำงานหนักขึ้นอีกนิด เพื่อทำให้กล้ามแขนของคุณน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม? นี่คือเวลาสำหรับโปรแกรมเฉพาะทางเพื่อพัฒนากล้ามแขน! 






 
       
ภาพบน ) แขนใหญ่สะท้อนถึงพลังและความมั่นใจ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ไม่มีใครในประวัติศาสตร์เคยข้ามวันฝึกไปเลย!




โปรแกรมฝึกแยกเพื่อเพิ่มขนาดแขนอย่างรวดเร็ว 

       คุณอาจมีวันฝึกแขนอยู่แล้วในตารางฝึกของคุณ แต่ส่วนใหญ่มักจะต้องรอให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นถูกฝึกครบก่อนถึงจะมาถึงวันนั้น ลองเปลี่ยนใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการฝึกแขนก่อนตามตารางนี้: 

* * * วันที่ 1: แขน  

* * * วันที่ 2: ขา  

* * * วันที่ 3: อก, หลัง, ไหล่ 

* * * วันที่ 4: พัก 

* * * จากนั้นเริ่มวนใหม่ 


วิธีการฝึกแขนที่เข้มข้นและได้ผล

       คุณจะฝึกแขนด้วยความเข้มข้นแบบไม่ปรานีถึง สองครั้งทุก 8 วัน หลังจากวันพักเต็มๆ ที่ให้โอกาสร่างกายได้ฟื้นตัวและรับประทานอาหารอย่างเต็มที่ 

       ใน วันที่ 3 เมื่อคุณฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของลำตัว เช่น อก หลัง และไหล่ กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์ของคุณ ก็จะได้รับผลพลอยได้จากการทำงานในท่าหนักๆ อย่าง Bench Press , Row และ Chin-up / Lat Pulldown  ซึ่งช่วยเตรียมกล้ามเนื้อแขนให้พร้อมสำหรับการเติบโตแบบก้าวกระโดด 
 

      
คำแนะนำสำหรับวันที่ 3 

       อย่าพยายามฝึกกล้ามเนื้ออก หลัง และไหล่ ด้วยปริมาณหรือความเข้มข้นเท่ากับที่คุณฝึกตามปกติ เพราะจะเกิดผลเสีย 3 อย่าง:

       ใช้เวลามากเกินไปในยิม: คุณอาจติดอยู่ในยิมถึง 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างมาก แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในชีวิตอื่นๆ 

       ความเหนื่อยล้าสะสม: กล้ามเนื้อส่วนแรกที่คุณฝึกจะยังโอเค แต่เมื่อไปถึงส่วนที่สองและสาม คุณจะเริ่มเหนื่อยล้า และเมื่อถึงส่วนสุดท้าย คุณอาจแค่ “ทำตามหน้าที่” โดยไม่มีประสิทธิภาพ 

       การฝึกหนักเกินไป ( Overtraining ): คุณอาจฝึกจนเกินขีดจำกัด โดยเฉพาะในระดับระบบ ( Systemic Overtraining ) ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ( CNS ) และระบบภูมิคุ้มกันของคุณ 


      
วิธีการปรับเปลี่ยน: 

* * * ลดปริมาณการฝึกกล้ามเนื้ออก หลัง และไหล่ลงประมาณ ครึ่งหนึ่ง ของที่คุณทำปกติ 

* * * โฟกัสที่ท่าฝึกพื้นฐานไม่กี่ท่าสำหรับแต่ละส่วน 

* * * คุณยังสามารถสร้างความแข็งแรงและพัฒนากล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ได้ แต่ให้การฝึกนั้นกระชับและตรงจุด 


หมายเหตุ : โปรแกรมนี้ควรใช้เฉพาะช่วงที่คุณต้องการมุ่งเน้นพัฒนากล้ามเนื้อแขน หลังจากนั้นคุณสามารถกลับไปใช้ตารางฝึกปกติของคุณได้! 




 
       
คุณจะฝึกแขนอย่างเข้มข้นแบบไม่ปรานี สองครั้งทุก 8 วัน โดยเริ่มหลังจากวันที่คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งคุณควรใช้เวลาวันนั้นในการพักผ่อนจริงๆ และรับประทานอาหารให้เพียงพอ! 




Routine 1: โปรแกรมฝึกแขนที่เข้มข้น

1. Cable Pushdown Tri-set 

* * * จำนวนเซ็ต: 3 เซ็ต ( 12 + 12 + 12 Reps ) 

* * * ใช้บาร์ตรงสั้นที่เครื่องเคเบิล:  

* * * ทำ 12 Reps ด้วยการจับแบบหงายมือ 

* * * พลิกมือจับแบบคว่ำแล้วทำอีก 12 Rep 

* * * หันหลังให้กับเครื่องเคเบิล เอนตัวไปข้างหน้า และยืดแขนไปข้างบน ทำอีก 12 Reps 

      

2. Close-grip Smith Incline Presses ( 4 x 10-12 )  ซูเปอร์เซ็ตกับ Seated Dip Machine ( 4 x 10-12 ) 

* * * เพิ่มน้ำหนักในแต่ละเซ็ต ( แบบพีระมิด ) 
      


3. Machine Curl 21s ( 3 x 21 )  ในลำดับต่อไปนี้:

* * * จากตำแหน่งล่างสุดถึงครึ่งทางทำา  7 Reps

* * * ทำเต็มช่วงการเคลื่อนไหว 7 Reps 

* * * จากครึ่งทางถึงตำแหน่งสูงสุดอีก 7 Reps  

* * * อ่านเกี่ยวกับเทคนิค 21s นี้ได้โดย คลิกที่นี่ 



4. Standing Barbell Curls ( 4 x 10-12 ) ซูเปอร์เซ็ต กับ Close-grip Chin-ups ( 4 x 10-12 ) 

* * * ใช้การจับแบบหงายมือ ( Underhand Grip )

* * * ให้มืออยู่ใกล้กัน หากสามารถทำได้โดยไม่เจ็บข้อมือ 

* * * หากไม่สามารถทำ Chin-ups ได้ ให้ใช้ Close-grip Lat Pulldown แทน 



5. Decline Dumbbell Skull-crushers ( 3 x 10-12 )  ซูเปอร์เซ็ต กับ Cross-body Dumbbell Hammer Curls ( 3 x 10-12 ) 

* * * ยกดัมเบลในแนวทแยงเข้าหาไหล่ฝั่งตรงข้าม 

* * * โฟกัสการบีบกล้ามเนื้อบริเวณ Brachialis และ ไบเซ็ปส์ด้านนอก 


การพัก:  หลังทำเซ็ตซูเปอร์เซ็ตแต่ละคู่ ให้สลับยืดและเกร็งกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์เป็นเวลา 2 นาที 





 
โปรแกรม “The Suns Out, Guns Out” 

       หากกล้ามแขนของคุณไม่ได้โตขึ้นเลยในช่วงหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น หลายเดือนหรือหลายปี นั่นอาจเป็นเพราะกล้ามเนื้อของคุณ คุ้นเคยกับสิ่งที่คุณทำอยู่จนเกินไป 

       ผมได้ออกแบบโปรแกรมฝึก 2 รูปแบบเพื่อ สร้างความตกใจให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์ และทำให้กล้ามเนื้อของคุณต้องพยายามปรับตัวและเติบโต คุณจะสลับฝึกทั้ง 2 รูปแบบนี้ตามที่คุณต้องการ 

 
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม: 

* * * คุณจะได้เผชิญกับการเผาไหม้ของกรดแลคติกอย่างรุนแรง 

* * * และ "ปั๊ม" กล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ 


คำแนะนำสำหรับการฝึก:

* * * วอร์มอัพ: แม้ไม่ได้ระบุในโปรแกรม ควรทำเซ็ตวอร์มอัพอย่างน้อย 2 เซ็ตสำหรับแต่ละท่าที่เริ่มใหม่ 

* * * การเพิ่มน้ำหนัก: ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักในแต่ละเซ็ต หรือที่เรียกว่า พีระมิด ( Pyramid Set ) 

* * * ความหนัก: ใช้ช่วงจำนวนครั้ง ( Rep Range ) เดิม แต่ความยากจะเพิ่มขึ้นในแต่ละเซ็ต และ เซ็ตสุดท้ายควรทำจนถึงจุดล้มเหลว ( Failure ) 


เหตุผล: เพื่ออ้างคำพูดของ ลี เฮย์นีย์ ( Lee Haney ) แชมป์ Mr. Olympia 8 สมัย: "เป้าหมายของเราคือการกระตุ้น ไม่ใช่การทำลายล้าง ( Stimulate, Not Annihilate )"


บทสรุป: หากปริมาณและความเข้มข้นเป็นเพียงปัจจัยเดียวในการเติบโตของกล้ามเนื้อ การฝึกอย่างหนักทุกวันในยิมนาน 8 ชั่วโมงก็คงทำให้เราทุกคนมีกล้ามเหมือน บิ๊ก แรมี่ ( Big Ramy ) กันหมดแล้ว! 





magzter.com



Routine 2: โปรแกรมฝึกแขนที่เข้มข้นอีกชุด  

1. Incline Dumbbell Curls ( 4 x 10-12 ) ซูเปอร์เซ็ต กับ Standing Dumbbell Curls ( 4 x 10-12 ) 

* * * สำหรับท่านี้ ให้ทำจนถึง จุดล้มเหลว ( Failure ) โดยนั่งบนม้านั่งเอียงและควบคุมให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์เหยียดออกเต็มที่ในทุกครั้ง 

* * * จากนั้นให้ลุกขึ้นและทำต่อโดยยืน 

* * * ควรใช้ดัมเบลน้ำหนักพอเหมาะ เช่น 13.61 กก. ( 30 ปอนด์ ) หรือ 15.88 กก. ( 35 ปอนด์ ) สำหรับเซ็ตสุดท้าย 



2. V-bar Pushdowns 

* * * จำนวนเซ็ต: 3 เซ็ต ( 15, 12, 10 Reps โดยเพิ่มน้ำหนักในแต่ละเซ็ต )

* * * ดับเบิลดรอปเซ็ต: ทำอีก 2 เซ็ต ( 10 Reps ต่อเซ็ต ) โดยลดน้ำหนักลง 



3. Bench Dips ( ใช้น้ำหนักตัวอย่างเดียว ไม่ใช้แผ่นบาร์เบลล์เลย )
 
* * * จำนวนเซ็ต: 4 เซ็ตจนถึง จุดล้มเหลว ( Failure ) 


หมายเหตุ: หากคุณสามารถทำได้เกิน 20 Reps ให้เพิ่มน้ำหนักโดยวางแผ่นน้ำหนักหรือดัมเบลไว้บนตัก 



4. Standing EZ-bar Curls ( 4 x 10-12 ) ซูเปอร์เซ็ต กับ Seated EZ-bar Curls ( 4 x 12 ) 

* * * ยืนทำท่าด้วยช่วงการเคลื่อนไหวเต็มที่ก่อน จากนั้นนั่งลงแล้วทำต่อโดยลดแท่ง EZ-bar ลงจนแตะต้นขา



5. Seated Overhead EZ-bar Extensions ( 4 x 10-12 ) ซูเปอร์เซ็ต กับ EZ-bar Skull-crushers on Flat Bench ( 4 x 10-12 )  

* * * การทำ Overhead Extension สามารถทำได้ทั้งในท่านั่งหลังตรง หรือบนม้านั่งปรับเอียง 

* * * เพื่อความสะดวก ให้ทำคู่กับ Skull-crushers โดยใช้แท่ง EZ-bar เดียวกัน 



การพัก: หลังจากจบแต่ละเซ็ต ให้สลับการยืดและเกร็งกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์เป็นเวลา 2 นาที 




magzter.com



 
       เตรียมตัวรับมือกับ ความแสบร้อนจากกรดแลคติก อย่างหนักและกล้ามเนื้อที่ถูกปั๊มกแบบเต็มที่ !
 





4 เคล็ดลับเพื่อการเพิ่มขนาดแขนอย่างรวดเร็ว 

       1. อย่าละเลยการเชื่อมต่อระหว่างจิตใจกับกล้ามเนื้อ ( Mind-Muscle Connection ) 

       ผมสนับสนุนให้ทุกคนพยายามแข็งแกร่งขึ้นและเพิ่มน้ำหนักในโปรแกรมฝึกแขน แต่การเพิ่มความหนักของน้ำหนักจะไม่มีความหมายเลยหากคุณไม่สามารถ หดตัวกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์หรือไตรเซ็ปส์ได้ในทุกครั้งที่ยก

       ตัวอย่างเช่น: มีจุดที่คุณจะสูญเสียการเชื่อมต่อกล้ามเนื้อในท่า Close-grip Bench Press หรือ Seated Dip Machines หลังจากเพิ่มน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้ออื่น เช่น ไหล่และหน้าอกเข้ามาช่วยแทน 

       ในท่า Curl แม้ว่าท่าของคุณอาจดูเหมือนดีจากมุมมองภายนอก แต่หากคุณไม่รู้สึกถึงการทำงานของกล้ามเนื้อ แสดงว่าคุณกำลังฝึกผิด 


       วิธีแก้ไข:

* * * ลดน้ำหนักลงเล็กน้อย 

* * * โฟกัสการหดตัวและยืดตัวของกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์หรือไตรเซ็ปส์ในทุกครั้งที่ยก 

      

       2. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดการฝึก 

       แม้ว่าจะมีโปรแกรมฝึกมากมายที่คุณสามารถทำตามได้ แต่คุณต้องเรียนรู้ที่จะ สังเกตเมื่อกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์หรือไตรเซ็ปส์ของคุณถึงจุดเต็มที่แล้ว

       สัญญาณหนึ่งคือ "ปั๊ม" ของกล้ามเนื้อ: 

* * * เมื่อปั๊มหมดลง และคุณไม่สามารถรู้สึกถึงการทำงานของกล้ามเนื้อได้อีก ให้หยุดการฝึกในวันนั้นทันที 

* * * การฝึกต่อจะให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยและอาจส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวในครั้งต่อไป 




magzter.com 



       3. กินเพื่อเพิ่มขนาด ( Eat for Gains ) 

       การกินอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ผมอยากให้คุณใส่ใจกับมื้ออาหารรอบการฝึกแขนเป็นพิเศษ:

* * * 90 นาที ก่อนการฝึก:  กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าวขาว หรือ มันฝรั่ง 

* * * 90 นาที หลังการฝึก: เสริมโปรตีน เช่น เวย์โปรตีน หรือกรดอะมิโนจำเป็น ( EAAs ) พร้อมคาร์โบไฮเดรตง่ายๆ เช่น ผลไม้สด ( สับปะรด, แตงโม ) หรือขนมหวาน เช่น เจลลี่บีน 

เป้าหมาย: เพื่อให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์ได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการฟื้นตัวและเติบโต 
      

       4. ปรับแต่งการฝึกแขนให้เหมาะกับตัวคุณ

       ปัญหาหนึ่งของโปรแกรมฝึกที่กำหนดไว้คือ เราไม่ได้มีร่างกายเหมือนกัน

* * * รูปร่าง, ความยาวแขน, คันโยก, และการเคลื่อนไหวของแต่ละคนต่างกัน 

* * * ท่าฝึกบางท่าอาจเหมาะกับบางคน แต่ไม่เหมาะกับคุณ 


คำแนะนำ:

* * * หากท่าฝึกใดไม่ช่วยให้คุณรู้สึกถึงการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้เปลี่ยนไปใช้ท่าฝึกอื่น 

* * * ทดลองและปรับเปลี่ยนจนกว่าจะเจอสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณ 

เป้าหมาย: ปรับแต่งโปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ! 





magzter.com 



 
       ท่าฝึกบางท่าสามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไตรเซ็ปส์ได้อย่างรุนแรง ทำให้เกิดการ "ปั๊ม" อย่างหนักและทำให้รู้สึกปวดเมื่อย แต่ท่าฝึกบางท่ากลับแทบไม่ส่งผลอะไรเลย!
 





magzter.com 



 
โชว์กล้ามแขนกลางแสงแดด! 

       ถึงแม้ว่าคุณจะมีแรงจูงใจในการสร้างกล้ามแขนตลอดทั้งปี แต่ฤดูร้อนที่มีระยะเวลาสั้นๆ สำหรับหลายคน ควรเป็นแรงผลักดันเพิ่มเติมให้คุณ ฝึกหนักขึ้น และ สร้างกล้ามเนื้อใหม่ๆ 

       เหมือนกับใน Game of Thrones ที่บอกว่า "ฤดูหนาวกำลังจะมา" ดังนั้นจงใช้เวลาในช่วงไม่กี่เดือนของแสงแดดเจิดจ้านี้ให้คุ้มค่า และเพิ่มขนาดกล้ามแขนของคุณให้ใหญ่จนเสื้อแทบปริ! 

       นี่คือโอกาสที่จะ อวดกล้ามแขนของคุณได้แบบไม่มีแขนเสื้อปิดบังเลย!
 



- จบ -







Double Drop Sets

 



Double Drop Sets


ข้างล่างนี้ )




       การฝึกแบบดรอปเซ็ต ( Drop Set ) เป็นเทคนิคการฝึกเวทเทรนนิ่งที่มุ่งเน้นการทำงานของกล้ามเนื้อจนถึงจุดล้า ( muscle failure ) โดยเมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถทำซ้ำได้อีกด้วยน้ำหนักที่กำหนด จะลดน้ำหนักลงและทำซ้ำต่อไปโดยไม่พัก

       สำหรับดรอปเซ็ตแบบดับเบิล ( Double Drop Set ) คือการลดน้ำหนักสองครั้งติดต่อกันในเซ็ตเดียว เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการฝึก


ตัวอย่างการทำดรอปเซ็ตแบบดับเบิล:

       1. เลือกน้ำหนักที่สามารถทำซ้ำได้ประมาณ 6-8 ครั้งจนถึงจุดล้า 

       2. เมื่อถึงจุดล้า ลดน้ำหนักลงประมาณ 10-20% แล้วทำซ้ำต่อจนถึงจุดล้าอีกครั้ง 

       3. ลดน้ำหนักลงอีก 10-20% แล้วทำซ้ำต่อจนถึงจุดล้าครั้งสุดท้าย 


       การฝึกแบบนี้ช่วยเพิ่มความเครียดให้กับกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการเติบโตของกล้ามเนื้อ ( hypertrophy ) มากขึ้น

       อย่างไรก็ตาม ควรใช้เทคนิคนี้อย่างระมัดระวังและไม่บ่อยเกินไป เนื่องจากเป็นการฝึกที่มีความเข้มข้นสูงและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากทำไม่ถูกต้อง
 

      

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : quora.com  


- จบ -





EZ-bar Skull-crushers on Flat Bench

 



ข้างบนนี้มาจาก : kingsoopers.com





 

ข้างบนนี้มาจาก : tanstella.com.au 


* * * จะบริหารท่านี้ได้ ต้องมีอุปกรณ์เหมือนในภาพข้างบนนี้ก่อนนะครับ * * *  




       EZ-bar Skull-crushers on Flat Bench 


ข้างล่างนี้ )



 

จังหวะที่ 1 ( ภาพบน )



 

จังหวะที่ 2 ( ภาพบน )


ข้างบนนี้มาจาก : barbend.com 




- จบ -








Seated Overhead EZ-bar Extensions

 



Seated Overhead EZ-bar Extensions


ข้างล่างนี้ )



จังหวะที่ 1จังหวะที่ 2


ข้างบนนี้มาจาก : ลิงก์นี้



- จบ -







Seated EZ-bar Curls


 


Seated EZ-bar Curls


ข้างล่างนี้ )




จังหวะที่ 1 ( ภาพบน )




จังหวะที่ 2 ( ภาพบน )



ข้างบนนี้มาจาก : ลิงก์นี้

- จบ -



Standing Dumbbell Curls






Standing Dumbbell Curls 


ข้างล่างนี้ )



 
จังหวะที่ 1จังหวะที่ 2



ข้างบนนี้มาจาก : muscleandfitness.com

- จบ -






 

Seated Overhead EZ-bar Extensions

 




Seated Overhead EZ-bar Extensions


ข้างล่างนี้ )



จังหวะที่ 1จังหวะที่ 2



ข้างบนนี้มาจาก : bodybuilding-wizard.com 


- จบ -









Wednesday, February 5, 2025

Cross-body Dumbbell Hammer Curls

 



Cross-body Dumbbell Hammer Curls


ข้างล่างนี้ )



จังหวะที่ 1จังหวะที่ 2จังหวะที่ 3จังหวะที่ 4จังหวะที่ 5



ข้างบนนี้มาจาก : the-optimal-you.com 



- จบ -





Decline Dumbbell Skull-crushers

 




 Decline Dumbbell Skull-crushers


ข้างล่างนี้ )




จังหวะที่ 1 ( ภาพบน )




จังหวะที่ 2 ( ภาพบน )




ข้างบนนี้มาจาก : ลิงก์นี้





จังหวะที่ 1 ( ภาพบน )





จังหวะที่ 2 ( ภาพบน )

- จบ -







Close-Grip Incline Press on Smith Machine

 



Close-Grip Incline Press on Smith Machine


ข้างล่างนี้ )




amazon.fr



* * * จะบริหารท่านี้ได้ ต้องมีอุปกรณ์เหมือนในภาพข้างบนนี้ก่อนนะครับ * * *  





จังหวะที่ 1 ( ภาพบน )





จังหวะที่ 2 ( ภาพบน )



- จบ -