คำว่า ท่า King หมายถึงท่าหลักที่สำคัญมากๆคัดมาเพียง 1 ท่าสำหรับบริหารกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ถือเป็นท่าที่สร้างปริมาณกล้าม ( Mass ) ได้ดีที่สุด ,สามารถบริหารโดยใส่แผ่นน้ำหนักได้มากๆ ,เป็นท่าที่บริหารแล้วกล้ามเนื้อขึ้นเร็วมากที่สุด ถ้าเปรียบเหมือนการสอบแข่งขันกันในห้อง ท่า King ก็คือผู้ที่สอบได้ที่ 1 สำหรับการบริหารด้วยท่าต่างๆสำหรับกล้ามเนื้อแต่ละส่วนนั้นๆ โดยท่า King สำหรับกล้ามเนื้อแต่ละส่วนเป็นดังนี้คือ
* * * ท่า King ของหน้าอก คือ Bench Press
* * * ท่า King ของปีก คือ Pulldowns to Front
* * * ท่า King ของหลังส่วนล่าง คือ Barbell Deadlift
* * * ท่า King ของบ่า คือ Press Behind the Neck
* * * ท่า King ของหัวไหล่ คือ Side Lateral Raise
* * * ท่า King ของหน้าท้อง คือ Crunch
* * * ท่า King ของท้องส่วนล่าง คือ Hanging Leg Raise
* * * ท่า King ของหน้าแขน คือ Standing EZ - Bar Curl
* * * ท่า King ของหลังแขน คือ E-Z Bar Overhead Tricep Extension
* * * ท่า King ของต้นขา คือ Squat with Barbell
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกๆของตารางฝึกนี้ ผมต้องการให้สมาชิกรู้จักการบริหารท่าต่างๆให้หลากหลาย จึงยังไม่ได้เน้นท่า King เหล่านี้ เพราะลำพังเพียงท่า King อย่างเดียว ไม่อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเพาะกายได้ ต้องมีท่าอื่นๆประกอบกันด้วย เพียงแต่ให้ทราบไว้เพื่อเป็นความรู้ในอนาคตครับ
สำหรับการเพาะกายที่เข้มงวดนั้น เรื่องแอลกอฮอลล์เป็นอะไรที่เราแตะไม่ได้อยู่แล้ว "แต่" ถ้าจำเป็นจริงๆ ยกตัวอย่างเช่นเป็นชั่วโมงสังสรรค์ ( Happy Hour ) ซึ่งจัดขึ้น นานๆครั้ง แล้วล่ะก็ มีแอลกอฮอลล์เพียงสองสิ่งเท่านั้นที่คุณสามารถดื่มได้ แต่ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น นั่นคือ เตกิลล่า และไวน์แดง
ส่วน "สิ่งต้องห้าม" ทุกกรณี คือปราศจากข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนก็ตาม นั่นคือ "เบียร์" อันสืบเนื่องมาจากยีสต์และสารในเมล็ดพืชที่นำมาทำเบียร์
( Webmaster - ลำพัง การทานแอลกอฮอลล์นั้น พวกนักเพาะกายก็แตะไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ นักวิชาการเขายังยกเว้นให้สองตัวคือ เตกิลล่าและไวน์แดง และห้ามเรื่องเบียร์อย่างเด็ดขาด / การบอกว่า ห้ามกินแอลกอฮอลล์ทุกชนิดนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการพูดแบบ "มีอคติกับแอลกอฮอลล์" เหตุผลก็เพราะในคำว่า สิ่งต้องห้ามนั้น มันจะมีระดับชั้นอยู่ คือหมายความว่า มันจะมีคำว่าสิ่งต้องห้ามแบบผ่อนผันได้ คืออยู่หัวแถวแบบสุดโต่ง กับสิ่งต้องห้ามแบบ ห้าม 100% เลย ก็คืออยู่ปลายแถวแบบสุดโต่ง / ผมจึงได้แต่หวังว่า เพื่อนสมาชิกคงไม่ทำใน "สิ่งต้องห้าม แบบสุดโต่ง" ด้วยการทานเบียร์นะครับ
และขอให้เข้าใจวิธีคิดด้วยนะครับว่า นักวิชาการ เขาไม่ได้เอาแค่สามตัวนี้มาวิเคราะห์นะครับ คือหมายความว่า เขาไม่ได้เอา เตกิลล่า ,ไวน์แดง และเบียร์ มาเรียงกันแค่สามตัว แล้วบอกว่า สองตัวแรก ( คือเตกิลล่า และไวน์แดง ) คือหัวแถวแบบสุดโต่ง ( คือสามารถทานได้ ) ,ส่วนเบียร์ เป็นปลายแถวแบบสุดโต่ง ( คือทานไม่ได้ ) / เพราะจริงๆแล้ว การวิเคราะห์เพื่อออกมาเป็นผลงานวิชาการนั้น มันต้องใช้ตัวอย่าง ( Sample ) เป็นแอลกอฮอลล์ทุกชนิดในวงการอยู่แล้ว และเมื่อเขาชี้แล้วว่าเบียร์คือสิ่งต้องห้ามแบบสุดโต่ง นั่นก็หมายความว่า เมื่อคุณทานเบียร์ ก็คือการที่คุณกำลังทานแอลกอฮอลล์ที่เลวร้ายที่สุด จากแอลกอฮอลล์ทุกชนิดที่ปรากฏอยู่บนโลกใบนี้นั่นเองครับ
และถ้ามี Trainner ที่คุณจ้างมาสอนคุณเล่นฟิตเนส บอกคุณว่า กินเบียร์ได้ แล้วเดี๋ยวค่อยทำคาร์ดิโอ ไล่แอลกอฮอลล์ออก ผมขอยืนยันว่า เขาไม่ได้พูดตามหลักการอะไรเลย เขาแค่พูด "ในสิ่งที่ผู้จ้างอยากได้ยิน" เท่านั้น เพราะเขาเกรงว่า ถ้าเขาเคร่งครัดกับคุณ แล้วคุณจะไม่จ้างเขาเป็น Trainner อีกต่อไป ทำให้เขาเสียรายได้ )
* * * ท่า King ของหน้าอก คือ Bench Press
* * * ท่า King ของปีก คือ Pulldowns to Front
* * * ท่า King ของหลังส่วนล่าง คือ Barbell Deadlift
* * * ท่า King ของบ่า คือ Press Behind the Neck
* * * ท่า King ของหัวไหล่ คือ Side Lateral Raise
* * * ท่า King ของหน้าท้อง คือ Crunch
* * * ท่า King ของท้องส่วนล่าง คือ Hanging Leg Raise
* * * ท่า King ของหน้าแขน คือ Standing EZ - Bar Curl
* * * ท่า King ของหลังแขน คือ E-Z Bar Overhead Tricep Extension
* * * ท่า King ของต้นขา คือ Squat with Barbell
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกๆของตารางฝึกนี้ ผมต้องการให้สมาชิกรู้จักการบริหารท่าต่างๆให้หลากหลาย จึงยังไม่ได้เน้นท่า King เหล่านี้ เพราะลำพังเพียงท่า King อย่างเดียว ไม่อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเพาะกายได้ ต้องมีท่าอื่นๆประกอบกันด้วย เพียงแต่ให้ทราบไว้เพื่อเป็นความรู้ในอนาคตครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
![]() |
ภาพจาก drinkando.com.br ,iblossom.com.au และ ayay.co.uk |
อ้างอิงโดย : Mike Carlson นิตยสารมัสเซิลแม็กซ์ ฉบับเดือนธันวาคม 2556
สำหรับการเพาะกายที่เข้มงวดนั้น เรื่องแอลกอฮอลล์เป็นอะไรที่เราแตะไม่ได้อยู่แล้ว "แต่" ถ้าจำเป็นจริงๆ ยกตัวอย่างเช่นเป็นชั่วโมงสังสรรค์ ( Happy Hour ) ซึ่งจัดขึ้น นานๆครั้ง แล้วล่ะก็ มีแอลกอฮอลล์เพียงสองสิ่งเท่านั้นที่คุณสามารถดื่มได้ แต่ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น นั่นคือ เตกิลล่า และไวน์แดง
ส่วน "สิ่งต้องห้าม" ทุกกรณี คือปราศจากข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนก็ตาม นั่นคือ "เบียร์" อันสืบเนื่องมาจากยีสต์และสารในเมล็ดพืชที่นำมาทำเบียร์
( Webmaster - ลำพัง การทานแอลกอฮอลล์นั้น พวกนักเพาะกายก็แตะไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ นักวิชาการเขายังยกเว้นให้สองตัวคือ เตกิลล่าและไวน์แดง และห้ามเรื่องเบียร์อย่างเด็ดขาด / การบอกว่า ห้ามกินแอลกอฮอลล์ทุกชนิดนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการพูดแบบ "มีอคติกับแอลกอฮอลล์" เหตุผลก็เพราะในคำว่า สิ่งต้องห้ามนั้น มันจะมีระดับชั้นอยู่ คือหมายความว่า มันจะมีคำว่าสิ่งต้องห้ามแบบผ่อนผันได้ คืออยู่หัวแถวแบบสุดโต่ง กับสิ่งต้องห้ามแบบ ห้าม 100% เลย ก็คืออยู่ปลายแถวแบบสุดโต่ง / ผมจึงได้แต่หวังว่า เพื่อนสมาชิกคงไม่ทำใน "สิ่งต้องห้าม แบบสุดโต่ง" ด้วยการทานเบียร์นะครับ
และขอให้เข้าใจวิธีคิดด้วยนะครับว่า นักวิชาการ เขาไม่ได้เอาแค่สามตัวนี้มาวิเคราะห์นะครับ คือหมายความว่า เขาไม่ได้เอา เตกิลล่า ,ไวน์แดง และเบียร์ มาเรียงกันแค่สามตัว แล้วบอกว่า สองตัวแรก ( คือเตกิลล่า และไวน์แดง ) คือหัวแถวแบบสุดโต่ง ( คือสามารถทานได้ ) ,ส่วนเบียร์ เป็นปลายแถวแบบสุดโต่ง ( คือทานไม่ได้ ) / เพราะจริงๆแล้ว การวิเคราะห์เพื่อออกมาเป็นผลงานวิชาการนั้น มันต้องใช้ตัวอย่าง ( Sample ) เป็นแอลกอฮอลล์ทุกชนิดในวงการอยู่แล้ว และเมื่อเขาชี้แล้วว่าเบียร์คือสิ่งต้องห้ามแบบสุดโต่ง นั่นก็หมายความว่า เมื่อคุณทานเบียร์ ก็คือการที่คุณกำลังทานแอลกอฮอลล์ที่เลวร้ายที่สุด จากแอลกอฮอลล์ทุกชนิดที่ปรากฏอยู่บนโลกใบนี้นั่นเองครับ
และถ้ามี Trainner ที่คุณจ้างมาสอนคุณเล่นฟิตเนส บอกคุณว่า กินเบียร์ได้ แล้วเดี๋ยวค่อยทำคาร์ดิโอ ไล่แอลกอฮอลล์ออก ผมขอยืนยันว่า เขาไม่ได้พูดตามหลักการอะไรเลย เขาแค่พูด "ในสิ่งที่ผู้จ้างอยากได้ยิน" เท่านั้น เพราะเขาเกรงว่า ถ้าเขาเคร่งครัดกับคุณ แล้วคุณจะไม่จ้างเขาเป็น Trainner อีกต่อไป ทำให้เขาเสียรายได้ )
- END -