Sunday, July 18, 2021

เกร็ดความรู้ อาทิตย์ที่ 5 E

 

   

คำแนะนำ หลังฝึกเสร็จ ของวันศุกร์ที่ 5 :

       ในตารางฝึกของวันนี้ คุณจะเห็นว่ามีการให้บริหารกล้ามหลังส่วนล่างด้วย ซึ่งบางคนอาจไม่ให้ความสำคัญ เพราะคิดว่าไม่ใช่กล้ามเนื้อที่โชว์ได้เหมือนกล้ามท้อง แต่ความจริงแล้ว กล้ามเนื้อส่วนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องบริหารมากครับ เหตุผลก็เพราะกล้ามเนื้อคนเราจะมีสองด้านเกือบทั้งสิ้น เช่นหน้าอก กับปีก หน้าท้องกับหลังส่วนล่าง ไบเซบกับไทรเซบ ต้นขาด้านหน้ากับต้นขาด้านหลัง ฯลฯ ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ จะต้องมีความแข็งแกร่งที่สมดุลกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าบริหารแต่หน้าอกอย่างเดียว ไม่บริหารกล้ามหลัง ก็จะทำให้นมของคุณห้อยย้อยลงมาเหมือนนมผู้หญิง แต่เมื่อเล่นกล้ามหลัง ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ตรงข้ามกัน มันจะช่วยยันหัวไหล่ขึ้นไป ทำให้หน้าอกดูตึงและกว้างขึ้น เรื่องการเล่นกล้ามแขนก็เช่นกัน ถ้าเราทำแต่ท่าม้วนข้อ ( curl ) คือเล่นแต่ไบเซบเท่านั้น ทำให้กล้ามเนื้อไบเซบแข็งแรงเกินไป และยึดตัวตลอดเวลา เวลาเดินแล้วเหมือนคนแขนคอก แต้ถ้าเล่นไทรเซบแก้ เมื่อกล้ามเนื้อไทรเซบยึดตัว มันก็จะสมดุลกับที่กล้ามเนื้อไบเซบยึดตัวเช่นกัน ทำให้เราแกว่งแขนได้ตามปกติ ตอนนี้กลับมาที่หน้าท้องนะครับ ก็เช่นกันครับ เมื่อหน้าท้องแข็งแรงกว่าหลังส่วนล่าง ก็จะทำให้กล้ามท้องยึดตัวเข้ามา ทำให้การจัดวางกระดูกสันหลังผิดปกติไป ดังนั้นวิธีแก้คือ ต้องบริหารหลังส่วนล่างเพื่อให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างแข็งแรงสมดุลกับกล้ามท้องครับ



สถานที่เที่ยวของนักเพาะกาย



      นักเพาะกายตามค่ายดังๆของต่างประเทศ เขาจะจัดอาหารให้นักเพาะกายระดับแชมป์ทานกันฟรีแบบไม่อั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พวกแชมป์เสียดายเงิน มัวแต่ไปทานอาหารที่ราคาถูก แล้วจะเสียคุณภาพของกล้ามเนื้อไป ดังนั้น ด้วยไอเดียนี้ ผมก็เลยอยากแนะนำให้มาใช้กับเพื่อนสมาชิกเช่นกันครับ ไม่ใช่ให้หาแหล่งทานฟรี แต่ให้หาแหล่งที่ทานไม่อั้น  แล้วให้เราเลือกทานพวกโปรตีน ซึ่งตามปกติจะมีราคาแพงหากซื้อมาทำเองหรือสั่งกินเป็นจานๆตามร้านทั่วไป  เรียกได้ว่าถือเป็นการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของนักเพาะกายเลยก็ว่าได้ โดยมี 3 ที่ที่ผมชอบไป จึงแนะนำให้ดังนี้ครับ



( ภาพบน ) 1.ร้านหมูกระทะ -  ในยุคที่ข้าวของแพงอย่างนี้ ใน 1 อาทิตย์ คุณน่าจะลองไปทานร้านอาหารประเภททานไม่อั้นกันบ้างสัก 1 - 2 ครั้ง ที่ผมไปเป็นประจำก็ได้แก่ร้านหมูกระทะ หัวละ 69 บาทเอง กินจนเจ้าของร้านหนาว กินหมูกับเนื้ออย่างเดียวครับ ผักไม่เอา ซุปไม่เอา ลองมาคำนวณดูแล้ว ดีกว่าไปทานพิซซ่าที่มีแต่แป้ง และถาดกลางก็ 100 กว่าบาทเข้าไปแล้ว ลองทานหลายๆร้านครับ เลือกร้านที่น้ำจิ้มอร่อยๆเป็นร้านประจำครับ แนะนำว่าให้ทานบ่อยๆเลย คุ้มมากๆ อย่าไปกังวลเรื่องของปิ้งๆย่างๆจะเป็นมะเร็งเลยครับ ไม่งั้นมนุษย์โบราณที่เขาย่างเนื้อกินกันก็คงเป็นมะเร็งตายไปหมด ไม่มีมนุษย์อยู่เหลือถึงปัจจุบันแล้วล่ะครับ ควรไปกังวลเรื่องบุหรี่ เรื่องเหล้ามากกว่า  อ้อ.. วันไหนถ้าไปทานโปรตีนเยอะๆอย่างนี้ ให้หยุดทานอาหารเสริมอะมิโนในวันนั้นสัก 1 วันนะครับ จะได้บังคับให้ร่างกายมันไปเลือกเอาแหล่งโปรตีนจากอาหารบุฟเฟ่นี่แทนครับ


( ภาพบน ) 2.งานเลี้ยงทั่วไป - จัดที่ไหน ก็ต้องเจอผมที่นั่นครับ เพราะมีอาหารให้เลือกเยอะดีจะได้ไม่จำเจกับมื้ออาหารที่ทานที่บ้านทุกวันไงครับ



( ภาพบน ) 3.ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูชิของบริษัทโออิชิ มีตามห้างทั่วไป ไม่ได้คิดค่าโฆษณานะครับ เพียงแต่ผมลองทานเทียบหลายๆร้านในห้างแล้ว ร้านนี้ค่อนข้างจะมีหมูกับเนื้อเยอะดี โดยเขาจะมีอาหารใส่จาน วางบนสายพานให้เราเอามาลวกในหม้อไฟของเราเอง สนนราคาก็ 300 บาทต่อ 1 ท่านทานไม่อั้นเช่นกัน   แต่ผมไม่รอให้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวมาตามสายพานหรอกครับ พอเข้าไปนั่งผมจะใช้วิธีสั่งเอาจากพ่อครัวเลยว่า "น้อง ขอเนื้อหมูกับเนื้อวัวครับ" เขาก็จะจัดใส่จานใหญ่มาให้ส่วนตัวเลย เป็นเนื้อหมูกับเนื้อวัวล้วนๆครับ ทานจนพ่อครัวจำได้ ไอ้ที่ว่าเป็นจานใหญ่นั้น ถ้าแยกออกเป็นจานเล็กบนสายพานก็จะได้ประมาณ 15 จานครับ แล้วคุณก็ไม่ต้องแตะพวกข้าวปั้นหรือผักเลยครับ เพราะทำให้อิ่มเร็ว เปลืองเนื้อที่ในกระเพาะที่จะใส่พวกโปรตีนน่ะครับ เทคนิคคือ ถ้าไป ก็พยายามเลือกนั่งตรงสายพานกลางๆร้าน ที่ใกล้กับที่พ่อครัวยืนจัดของใส่จานอยู่น่ะครับ อย่าไปนั่งบริเวณโต๊ะรอบๆร้านเลยเชียว เพราะจะเรียกพนักงานไม่ค่อยได้ยิน  อ้อ.. อย่าลืมสั่งปลาซาบะย่างด้วยนะครับ เพราะเขาคิดราคารวมมาใน 199 บาทอยู่แล้ว บางท่านไม่ทราบเพราะคิดว่าเขาจะคิดราคาเพิ่มน่ะครับ เสียดายของครับ ( ปลาก็เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่ไขมันน้อยอย่างหนึ่งนะครับ )

- END -